Tuesday, September 22, 2015

ลานละเลงเลือด : Killing Floor





หนังสือชื่อ :  ลานละเลงเลือด (Killing Floor)

 ผู้แต่ง :   Lee Child

ผู้แปล :  โรจนา นาเจริญ

สำนักพิมพ์ :   น้ำพุ

ได้รับหนังสือเล่มนี้มาจากพี่คนไทยใจดีในเนเธอร์แลนด์ค่ะ ต้องขอบคุณพี่เหว่ามา ณ โอกาสนี้ ...ดีใจมีหนังสือภาษาไทยให้อ่านแล้ว 
หนังสือเล่มนี้เป็นเล่มแรกในชุด แจ็ค รีชเชอร์ ของผู้แต่ง Lee Child ค่ะ คนแต่งเป็นคนอังกฤษ แต่อาศัยอยู่ที่อเมริกา ส่วนตัวออยมองว่า สไตล์การเขียนของผู้แต่ง เป็นอเมริกัน แต่ไม่ได้อเมริกันจ๋าเเบบงานเขียนของ ทอม แคลนซี่ อ่านสนุกค่ะ ออยชอบ จัด Lee Child อยู่ในทำเนียบนักเขียนคนโปรด ที่จะหางานเขียนอื่นๆ ของเขามาอ่านเพิ่มอีกค่ะ

แจ็ค รีชเชอร์ ตัวเอกของเรื่อง เคยเป็นสารวัตรทหารมาก่อนค่ะ หน้าที่ในสมัยที่ยังรับราชการทหารคือการสืบสวนคดีฆาตกรรม สารวัตรทหารต้องเก่งเป็นพิเศษค่ะ เพราะคนร้ายคือทหารที่ได้รับการฝึกมาเป็นอย่างดี คนร้ายเหล่านั้น บางคนเป็นหน่วยรบพิเศษ เป็นซีล เมื่อคนเหล่านี้ทำผิด ย่อมอันตรายกว่าคนธรรมดา และนั่นคือหน้าที่ของ แจ็ค รีชเชอร์ ที่จะจับพวกเขามาลงโทษให้ได้
แจ็ค รีชเชอร์ เติบโตมาในค่ายทหารค่ะ พ่อเขาเป็นนาวิกโยธิน ซึ่งต้องย้ายประจำการบ่อยๆ ดังนั้นครอบครัวก็ต้องตามไปด้วย ในวัยเด็ก แจ็คกับพี่ชายย้ายโรงเรียนบ่อยมาก และเมื่อแจ็คโตขึ้น เขาก็เจริญรอยตามพ่อ เข้ารับราชการทหารเช่นกัน ชีวิตการเป็นทหารของเเจ็คสิ้นสุดลงเมื่อเกิดการล้มสลายของสหภาพโซเวียตค่ะ กองทัพลดกำลังคน แจ็คจึงโดนปลดในวัย 36 ปี 
เมื่อถูกปลดประจำการ แจ็คก็ท่องเที่ยวไปเรื่อยค่ะ ด้วยเงินก้อนที่ได้รับตอนถูกปลด แจ็คใช้ชีวิตอย่างคนพเนจร นั่งรถโดยสาร อยากแวะตรงไหนก็แวะ ค่ำไหนก็นอนนั้น 
เช้าวันที่เกิดเรื่องก็เช่นกันค่ะ แจ็คนั่งรถโดยสาร และบอกคนขับให้จอดให้เขาลงที่เมืองมาร์เกรฟ รัฐจอร์เจีย ทั้งๆ ที่เมืองนี้ไม่ใช่จุดลงจอดปกติ ...เหตุผลที่เเจ็คอยากไปเมืองมาร์เกรฟก็เพียงเพราะว่า พี่ชายของเเจ็คเคยเขียนจดหมายบอกว่า เมืองนี้เป็นบ้านเกิดของนักดนตรีไบลด์ เบลค ทำให้แจ็คอยากมาเดินดูให้เห็นกับตา..ก็เท่านั้นเอง
หลังจากเดินเท้าจากถนนใหญ่ เข้าเมืองมาร์เกรฟ และสั่งอาหารเช้ากินที่ร้านอาหาร ทั้งหมดไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ตำรวจทั้งโรงพักก็บุกมาที่ร้านด้วยอาวุธครบมือ เพื่อมาจับแจ็ค ในข้อหาฆาตกรรม!!!
ศพที่พบถูกยิงจนหน้าเละ แถมหลังจากนั้นยังถูกกระทืบซะจนกระดูกแหลกไปหมดอีก และศพถูกซ่อนไว้ใต้ลังกระดาษเก่าๆ เจ้าหน้าที่ไม่สามารถระบุตัวศพได้ จึงต้องพิมพ์ลายนิ้วมือและส่งไปตรวจที่สำนักงานใหญ่ 
แน่นอนค่ะ แจ็คปฏิเสธข้อกล่าวหา...แต่หัวหน้าตำรวจ สารวัตรมอร์ริสัน กลับเป็นพยานยืนยันว่าเขาเห็นเเจ็คเดินอยู่แถวโกดังบริเวณที่พบศพในตอนเที่ยงคืน อันเป็นเวลาที่สันนิษฐานว่าเป็นเวลาตายของศพที่พบ
ท่าทางชะตาของเเจ็คจะลำบากซะแล้วซิ..หัวหน้าฝ่ายสืบสวน ร้อยตำรวจเอก ฟินเลย์ บอกแก่เเจ็คว่าพบกระดาษจดเบอร์โทรศัพท์ซ่อนอยู่ในรองเท้าของศพ และเมื่อโทรไป ปรากฏว่าเป็นเบอร์ของ พอล ฮับเบิล นายธนาคารที่น่านับถือของเมือง
และเมื่อเชิญตัว ฮับเบิล มาให้การที่สถานีตำรวจ ...ฮับเบิลกลับสารภาพซะดื้อๆ อย่างนั้นเลย สารภาพด้วยความกลัวอะไรบางอย่าง... ฮับเบิลกลัวอะไร...
เนื่องด้วยติดวันหยุดเสาร์ อาทิตย์ ดังนั้นทั้งฮับเบิลและแจ็คจึงถูกส่งตัวไปควบคุมตัวชั่วคราวที่เรือนจำค่ะ ในเรือนจำ มีเรื่องไม่ชอบมาพากลเกิดขึ้น ทั้งคู่ถูกหมายปองเอาชีวิต แจ็คต้องทำทุกวิถีทางที่จะเอาตัวรอดให้รอดพ้นวันอาทิตย์ไปให้ได้...
และเมื่อศพถูกระบุตัวได้ในที่สุด...คือ โจ รีชเชอร์...พี่ชายของแจ็คนั่นเอง....โจมาทำอะไรที่มาร์เกรฟ เกิดอะไรขึ้นกับโจ
หลังจากการตายของโจ จากเดิมเมืองชนบทที่เคยเงียบสงบ ก็มีการตายเพิ่มขึ้น สภาพศพของเหยื่อแต่ละคน ดูแทบไม่ได้ เละมาก ถูกทารุณกรรมอย่างรุนแรงก่อนตาย ฮับเบิลก็หายไป คาดว่าถูกฆ่าตาย...และแน่นอนค่ะ แจ็ค ก็คือเป้าหมายต่อไปของพวกมัน...
สถานการณ์ซับซ้อน ดูเหมือนคนทั้งเมืองรู้เห็นเป็นใจกัน ...แจ็คแทบไว้ใจใครไม่ได้เลยค่ะ แม้กระทั่งตำรวจ!!! 
แจ็คมีเวลาคลี่คลายคดีนี้ให้ได้ก่อนวันอาทิตย์ค่ะ เลยจากนั้นแล้ว หลักฐานทั้งหมดจะหายไป...แต่ว่านี่มันเรื่องอะไรกัน มูลเหตุของการฆาตกรรมคืออะไร...

ทิ้งไว้ให้ไปลุ้นกันเองในหนังสือเลยค่ะ ไม่ขอสปอยไปมากกว่านี้ รับรองค่ะว่าสนุก โดยเฉพาะคนที่ชอบหนังสือสไตล์ทอม เเคลนซี่ หนังสือเเนวแอ๊คชั่น ฮีโร่ ยินดีที่จะแหกกฏเพื่อผดุงความยุติธรรม น่าจะชอบอ่านเล่มนี้ค่ะ 

No comments:

Post a Comment