Thursday, November 17, 2016

Ashley Bell





ชื่อหนังสือ  :  Ashley Bell

ผู้แต่ง  :  Dean Koontz

สำนักพิมพ์  :  HarperCollins


เป็นหนังสือที่อ่านไปก็โมโหตัวเองไปค่ะ เพราะจริงๆ แล้วเนื้อเรื่องมันน่าเบื่อแต่ก็วางไม่ลง หนังสือก็ถึงกำหนดต้องคืนห้องสมุดแล้ว แถมตัวเองก็ยังมีอีกหลายอย่างให้ต้องทำ ... แต่มันวางไม่ลง ด้วยความอยากรู้อยากเห็น ทำให้ต้องอ่านไปเรื่อยๆ จนจบ (สุดท้ายก็เลยกำหนดคืนไป 4  วันค่ะ)

Dean Koontz ผู้แต่ง เป็นที่รู้จักกันดีในวงการหนังสือแนวสยองขวัญค่ะ แต่เล่มนี้เป็นเล่มแรกที่ออยอ่านจากต้นฉบับ เคยอ่าน (เมื่อนานมาแล้ว) เป็นฉบับแปลเป็นไทยค่ะ

คือมันยากมากที่จะเล่าเนื้อเรื่องในหนังสือโดยไม่สปอยล์ ถ้าใครเป็นแฟน Dean Koontz จะข้ามตอนนี้ไปเลย และไปหาซื้อมาอ่านเองได้เลยนะคะ รับรองว่าเนื้อเรื่องไม่ตื่นเต้น แต่ก็วางไม่ลง

--------------------------------------------  สปอยล์นะคะ ----------------------------------------------------------

ในหนังสือเป็นเรื่องราวของ Bibi ค่ะ นักเขียนสาว ... เธอมีชีวิตที่ปกติ มีคู่หมั้นเป็นซีล ซึ่งกำลังทำงานลับ สังหารผู้ก่อการร้ายให้รัฐบาลอเมริกาอยู่ 
ชีวิตของ Bibi เริ่มมาผกผันเมื่อ อยู่มาวันหนึ่ง เธอก็ป่วยกะทันหัน และหมอวินิจฉัยว่า เธอเป็นมะเร็งสมอง ค่ะ เป็นมะเร็งชนิดที่มีโอกาสรอดต่ำ และคาดว่าจะมีชีวิตอยู่ได้ต่ออีกแค่ปีเดียว

Bibi ยังคงมีกำลังใจดีค่ะ แต่อาการของเธอก็ทรุดหนัก จนกระทั่งไม่สามารถขยับเขยื้อนร่างกายได้ แต่ยังได้ยินเสียงทุกอย่าง และยังมีสติดี เพียงแต่คนภายนอกจะคิดว่า เธอเข้าขั้นโคม่าแล้ว ... ปรากฎว่าคืนหนึ่ง มีชายคนหนึ่ง ใส่ฮูด ทำให้มองเห็นหน้าไม่ชัด เดินเข้ามาห้องเธอพร้อมกับหมาโกลเด้นรีทรีฟเวอร์ ... ซึ่งตอนนั้น Bibi เข้าใจว่าเป็นกิจกรรมของโรงพยาบาล ที่นำหมามาให้กำลังใจกับเด็กๆ และคนป่วย เพื่อให้มีกำลังใจต่อสู้โรคร้ายค่ะ... ชายคนนั้นกับหมาก็มาหยุดที่ข้างเตียง Bibi หมาก็เลียมือ Bibi ด้วย เสร็จแล้วทั้งคู่ก็เดินออกจากห้องไป

หลังจากนั้น Bibi ก็รู้สึกดีขึ้นอย่างอัศจรรย์เลยค่ะ และหมอเองก็แปลกใจ ไม่เจอก้อนเนื้อมะเร็งในสมองของเธออีกแล้ว เธอเล่าให้หมอฟังเรื่องชายใส่ฮู้ดกับหมา ...ปรากฎว่า หลังจากเช็คในกล้องวงจรปิดแล้ว ชายใส่ฮู้ดกับหมาของเขาเข้ามาในห้อง Bibi จริง ... แต่บอกไม่ได้ว่ามาจากไหน และจากนั้นออกหายไปไหน .... เหมือนจู่ๆ ก็โผล่มาจากลิฟท์ เข้ามาห้อง Bibi ออกจากห้อง เดินไปเข้าลิฟท์ ....แล้วก็หายไปเลย

วันที่ Bibi ออกจากโรงพยาบาล พ่อกับแม่เธอก็พาไปฉลองค่ะ และพ่อกับแม่ก็นัดหมอนวด Calida Butterfly มาทำการนวดผ่อนคลายให้ที่อพาร์ทเมนต์ของ Bibi ด้วยค่ะ หลังจากนวดกันแล้ว Calida ก็เริ่มการทำนายค่ะ เพื่อต้องการรู้ว่า ทำไม Bibi จึงหายขาดจากโรคมะเร็ง และก็พบว่า ที่ Bibi หายจากโรคมะเร็ง ก็เพื่อที่จะไปช่วยชีวิต คนที่ชื่อ "Ashley Bell" ค่ะ

และหลังจากอ่านถึงตรงนี้ล่ะค่ะ ออยเริ่มรู้สึกว่ามันบ้าบอคอแตกมาก เช่น วิธีการทำนายของ Calida และขณะกำลังทำนายอยู่นั้น Calida ก็บอกว่ามีคนตามล่า แล้วก็บอกให้หนีกันออกมาจากอพาร์ทเมนต์ ใครตามล่าก็ไม่รู้ แถม Calida ดันมาโกรธ Bibi เสียอีก หาว่าเป็นต้นเหตุให้ถูกตามล่า นางขอแยกตัวให้ห่างไกลกับ Bibi 

Bibi ก็เริ่มภารกิจการตามหาว่า Ashley Bell คือใคร และอยู่ที่ไหน ... แต่การตามหา Ashley Bell กลายเป็นว่า เหมือนกับการตามหาความทรงจำที่หายไปของ Bibi เอง แถมอ่านไปอ่านมา ก็รู้สึกไม่สมเหตุสมผล เช่น Bibi ไปสัก ...สักทำไม? มันใช่เวลาไหม? ...ฆาตกรที่สังหารอาจารย์มหาลัยของ Bibi ต้องพูดประโยคคมที่หยิบยกมาจากหนังสือ...คือมันผิดวิสัยฆาตกรไปไหม?  แถม Bibi รู้ได้อย่างไรว่าคำพูดนั้น หยิบมาจากข้อความในหนังสือเล่มไหน? เยอะค่ะ ลองอ่านดูแล้วจะรู้

อ่านไปก็จนใกล้จะจบเล่มนั้นแหละค่ะ ถึงได้รู้ว่า ทั้งหมดนั้น Bibi ฝัน (มิน่าล่ะ ถึงว่าทำไมเรื่องที่อ่านผ่านมา มันไม่สมเหตุสมผลเอาเสียเลย) ... Bibi ตัวจริงกำลังนอนโคม่าอยู่บนเตียงของโรงพยาบาลค่ะ ... 
คือเนื่องจากว่า ตอนเด็กๆ  Bibi มีปู่ ที่ Bibi เรียกว่า "กัปตัน" เป็นเหมือนเพื่อนสนิทเลยค่ะ Bibi เล่าเรื่องฝันร้ายให้ปู่ฟัง (จริงๆ ไม่เชิงฝันร้ายนะคะ มันเหมือนจริงมาก เหมือน Bibi เอง มีพลังที่ทำให้สามารถทำเรื่องที่ไม่สามารถอธิบายได้อยู่น่ะค่ะ) ฝันร้ายนี้คอยหลอกหลอน Bibi เป็นแรมเดือน คุณปู่ซึ่งเคยเป็นนาวิกโยธินมาก่อน เลยแนะนำวิธีที่จะทำให้ลืมฝันร้ายนั้น ... ลืมแบบจำไม่ได้ แบบไม่รู้ว่าเคยเกิดขึ้นมาก่อนน่ะค่ะ 

แต่เนื่องจากมันเป็นการลบความทรงจำในช่วงเวลาของเด็กไงคะ เด็กยังคงต้องใช้ความทรงจำเพื่อการพัฒนาบุคลิก ทักษะ ความคิดต่างๆ ...ดังนั้นเมื่อความทรงจำที่ถูกลบไป จึงส่งผลให้เกิดเรื่องเหล่านี้ขึ้น 

สุดท้ายแล้ว Pax คู่หมั้น และ Pogo เพื่อนของ Bibi จะสามารถช่วยให้ความทรงจำที่ถูกลบไปของ Bibi กลับคืนมาได้หรือไม่ และ Bibi จะฟื้นจากอาการโคม่าได้หรือไม่... อันนี้ไม่สปอยล์ค่ะ ไปหาอ่านกันได้ค่ะ

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ผู้แต่งเล่าเรื่องได้เก่งมากค่ะ ทั้งๆ ที่เนื้อเรื่องไม่ได้ยิ่งใหญ่อะไร คือเป็นเรื่องของ Bibi เท่านั้น ไม่ใช่การกอบกู้โลกที่ยิ่งใหญ่อะไรเลยค่ะ... แต่ผู้แต่งเล่า ทำให้เรารู้จัก Bibi ทีละน้อยๆ โดยเล่าสลับไปมาระหว่างปัจจุบัน กับช่วงเวลาในอดีตค่ะ ...มันคือเสน่ห์ที่ทำให้อ่านแล้ววางไม่ลง มันทำให้เราอยากรู้จัก Bibi ให้มากขึ้น ... แม้ขณะที่อ่านมาถึงตอนที่มันดูไม่สมเหตุสมผล ...ปกติเราจะโทษคนแต่ง ว่าแต่งไม่เหมือนจริง..แต่เล่มนี้ ถึงเเม้ว่าจะบ่น แต่ก็อยากรู้ เลยทำให้วางไม่ลง ต้องอ่านต่อไปเรื่อยๆ จนถึงเฉลย...พอเฉลยแล้ว ก็ต้องลุ้นต่ออีก





Tuesday, September 6, 2016

The Bat





 ชื่อหนังสือ  :  The Bat

 ผู้แต่ง  :  Jo Nesbo

สำนักพิมพ์  :  Vintage Books

หนังสือเล่มนี้เป็นเล่มแรกในชุดของนักสืบ สารวัตรแฮร์รี่ โฮล ค่ะ เรื่องมันมีอยู่ว่า สารวัตรโฮลถูกส่งตัวให้มาช่วยทีมสอบสวนของซิดนีย์ ในคดีที่หญิงสาวชาวนอร์เวย์ถูกฆ่าข่มขืน และทิ้งศพ ในสวนสาธารณะ Gap Park ของซิดนีย์ 

มันดูเหมือนไม่มีอะไรมากค่ะ เพราะดูเหมือนจะเป็นการส่งสารวัตรโฮลมาช่วยพอเป็นพิธี ทางตำรวจออสเตรเลียเองก็ไม่ได้อยากได้สารวัตรโฮลมายุ่มย่ามกับการสืบสวนของพวกเขานัก ดังนั้นสารวัตรโฮลก็คิดซะว่า มาพักผ่อนที่ออสเตรเลียล่ะกัน 

ตำรวจออสเตรเลียที่คอยประกบและอำนวยความสะดวกให้สารวัตรโฮลในทริปนี้ ชื่อ Andrew Kensington ค่ะ มีเชื้อสายชาวเผ่าอะบอริจิน ... ครึ่งเล่มส่วนแรกของหนังสือจึงเป็นเรื่องราวตำนานของชนเผ่านอะบอริจิน ที่ Andrew เล่าให้สารวัตรโฮลฟัง Andrew พาสารวัตรโฮลไปที่ต่างๆ ค่ะ รวมถึงพาไปรู้จักบรรดาเพื่อนๆ ของเขาด้วย (ซึ่งตอนแรกอ่านแล้ว ก็รู้สึกว่า จะเขียนไปทำไม ไม่เห็นจะเกี่ยวกับคดีเลย)

และที่ออสเตรเลียนี้ ดูเหมือนสารวัตรของเราจะพบรักด้วยค่ะ เป็นสาวชาวสวีเดน ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมงานของผู้ตายค่ะ  

ครึ่งเล่มส่วนแรกในหนังสือเล่มนี้ ดำเนินเรื่องเรื่อยๆ ค่ะ ดูจะน่าเบื่อและไม่เห็นจะเกี่ยวอะไรกับคดีที่กำลังหาคนร้ายอยู่นี่เลย ...แต่อดทนอ่านอีกนิดค่ะ เพราะครึ่งเล่มหลังกลับน่าสนใจมาก จนถึงขนาดต้องพลิกกลับมาอ่านครึ่งแรก เพราะพลาดบางอย่างที่ผู้เขียนได้วางหมากไว้! ... นี่ล่ะค่ะ เสน่ห์ของหนังสือของ Jo Nesbo

จากการสืบสวนของตำรวจ พบว่า ยังมีอีกหลายๆ คดีที่เหยื่อมีลักษณะการตายคล้ายๆ กัน และเหยื่อทุกคนมีผมบลอนด์ ... ดูเหมือนว่าฆาตกรในคดีนี้ อาจจะเป็นฆาตกรฆ่าต่อเนื่อง!!!

เรื่องมันเริ่มเข้มข้นเมื่อนักแสดงละครกระเทย ซึ่งเป็นชาวอะบอริจิน และเป็นเพื่อนกับ Andrew เสียชีวิตอย่างสยองหลังจากละครที่เขาแสดงจบลง ชายคนนี้้เป็นผู้ต้องสงสัยที่สารวัตรโฮลกำลังวางแผนจับกุมค่ะ แต่กลับมาโดนฆ่าตัดหน้าเสียก่อน...เเล้วใครฆ่าล่ะ ???

เรื่องมันยิ่งซับซ้อนขึ้น เมื่อคู่หูของสารวัตรโฮลถูกพบว่าเสียชีวิต ... ตอนแรกทุกคนคิดว่า เขาฆ่าตัวตาย ...แต่สารวัตรโฮลสามารถพิสูจน์ให้เชื่อได้ว่า เพื่อนของเขาถูกฆาตกรรมอำพรางต่างหาก !!! (เพราะฆาตกรพลาดอย่างคิดไม่ถึงค่ะ อ่านแล้วจะชื่นชมความฉลาด ไหวพริบของสารวัตรโฮล)... แล้วถ้างั้นใครเป็นคนฆ่าเพื่อนของสารวัตรโฮล ???  ฆาตกรตัวจริงคือใคร ??? และสารวัตรโฮลจะสมหวังในรักกับสาวสวีเดนหรือไม่ ???




Tuesday, July 12, 2016

ศพซ่อนซาก : Birdman





หนังสือชื่อ  :  ศพซ่อนซาก (Birdman)

ผู้แต่ง  :  Mo Hayder

ผู้แปล  :  พีระ ทวีชัย

สำนักพิมพ์  :  น้ำพุสำนักพิมพ์


ว่ากันว่า หนังสือเล่มนี้คือเล่มที่สร้างชื่อให้กับผู้เขียน Mo Hayder ค่ะ (อ่านจนจบแล้ว เพิ่งมารู้ทีหลังว่าคนเขียนเป็นผู้หญิง) หนังสือเล่มนี้คือการเปิดตัว สารวัตรสืบสวน "แจ็ค แคฟเฟอรี" ค่ะ

สารวัตร แจ็ค แคฟเฟอรี  เพิ่งย้ายมาทำงานในหน่วยสืบสวนคดีสำคัญ (AMIP) และเจอคดีนี้เป็นคดีแรกค่ะ เรื่องมันเริ่มต้นที่ มีการพบศพของหญิงสาวถูกฝังครึ่งตัว ท่อนล่างถูกฝังอยู่ในคอนกรีต ท่อนบนเปลือยเปล่า ห่อด้วยถุงขยะ ...ตอนแรกก็เจอแค่ศพเดียว ต่อมาก็เจออีก 4 ศพในบริเวณนั้น รวมทั้งหมดเป็น 5 ศพค่ะ 

ศพทั้งหมดเป็นหญิงสาว ตายในช่วงเวลาต่างๆ กัน แต่แน่ชัดว่าคนที่ฆ่าพวกเธอเหล่านั้นน่าจะเป็นคนเดียวกัน จากการชันสูตร พบว่า หญิงสาว 4 ใน 5 มีสารเสพย์ติดอยู่ในเลือด มีรอยแผลประหลาดบนศรีษะ และที่น่าสยดสยองคือ มีรอยผ่า และมีนกเป็นๆ ยัดไว้ตรงหน้าอก!!! --- นี่คือฉายา "มนุษย์นก (Birdman)"ที่ตำรวจใช้เรียกฆาตกรรายนี้ค่ะ 

ฆาตกรเป็นพวกโรคจิต ชอบมีเพศสัมพันธ์กับศพ เเละมีความรู้บางทางการแพทย์ค่ะ (ไม่ได้รู้จริงถึงขึ้นเป็นหมอ เพราะร่องรอยฝีมือผ่าตัด บอกว่าไม่ได้ชำนาญมากนัก) 

ภารกิจแรกที่สารวัตรแจ็คต้องสืบ คือ สืบหาว่าพวกเธอเหล่านั้นคือใคร ...ซึ่งก็อย่างที่คาดค่ะ พวกเธอเหล่านั้นเป็นโสเภณี นั่นคือเหตุผลที่ฆาตกรสามารถลงมือสังหารอย่างเหี้ยมโหดมาได้ยาวนาน โดยที่ไม่มีใครจับได้ 

หลังจากที่ระบุตัวเหยื่อได้บ้างแล้ว ก็ต้องหาจุดเชื่อมโยงค่ะ ว่าพวกเขาไปที่ไหนที่เหมือนๆ กัน และหายไปได้อย่างไร 

ในหนังสือจะเล่าถึงการสืบสวนหาตัวฆาตกร การเมืองในที่ทำงานของตำรวจ พร้อมกันนั้นก็เล่าถึงชีวิตส่วนตัวของสารวัตรแจ็คด้วยค่ะ

สารวัตรแจ็คมีบาดแผลในใจเป็นปมอยู่ค่ะ คือ เมื่อ 30 ปีก่อน พี่ชาย "อีวาน" หายตัวไปอย่างลึกลับค่ะ (ตอนนั้น อีวาน กับแจ็ค ยังเด็กอยู่ทั้งคู่นะคะ ดังนั้นน่าจะตัดเรื่องอีวานหนีออกจากบ้านไปได้) -- หลังจากการหายตัวไปของอีวาน ความสัมพันธ์ระหว่างแจ็คกับพ่อแม่ ก็ไม่เหมือนเดิม ...แต่จะว่าไป ความสัมพันธ์ของแจ็คกับใครๆ ก็ไม่เหมือนเดิมค่ะ เเจ็คมุ่งมั่นกับการตามหาพี่ชาย แจ็คซื้อบ้านหลังนี้ต่อจากพ่อกับแม่ ห้องของพี่ชายก็ยังเก็บไว้ และเต็มไปด้วยเเฟ้มสืบสวนส่วนตัวนี้ 

แจ็คกำลังมีแฟนค่ะ เป็นลูกสาวเศรษฐี ชื่อ เวโรนิก้า ...แต่ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ไม่ค่อยจะราบรื่นนัก เวโรนิก้าก็ช่างบงการ ในขณะที่แจ็คก็มีปมเรื่องพี่ชายอยู่ในใจ ไม่เลือนหาย

น่าติดตามเชียวค่ะ ความสัมพันธ์ระหว่างสารวัตรแจ็คกับเวโรนิก้าจะลงเอยเช่นไร สุดท้ายแจ็คจะหาอีวานเจอหรือไม่ ...และที่สำคัญ มนุษย์นกคือใคร (แอบบอกใบ้ว่า ออยเดาผิดแหละ ปรากฏว่า การฆาตกรรมนี้ซับซ้อนกว่าที่คิด)

หนังสืออ่านสนุกค่ะ มีการค่อยๆ เล่าเรื่อง เเละเปิดเผยความลับมาทีละส่วนๆ ดังนั้นอ่านข้ามหน้าไม่ได้เลย


Thursday, January 7, 2016

หลง : Deal Breaker





ชื่อหนังสือ  :  หลง (Deal Breaker)

ผู้แต่ง  :  ฮาร์ลาน โคเบน

ผู้แปล  :  อริณี เมธเศรษฐ

สำนักพิมพ์  :  แพรวสำนักพิมพ์


หนังสือเล่มนี้อยู่ในชุดที่ได้รับมาจากพี่เหว่า พี่คนไทยในเนเธอร์แลนด์ค่ะ ที่มอบให้อ่าน ต้องขอบคุณพี่มา ณ ที่นี่ด้วยค่ะ

หนังสือเล่มนี้เป็นชุดแรกในชุดนักสืบ ไมรอน โบลิทาร์ ค่ะ 
ไมรอน เนี่ย เขามีอาชีพเป็นตัวแทนนักกีฬาค่ะ แต่ไม่ใช่เป็นตัวแทนระดับใหญ่อะไรนะคะ นักกีฬาอาชีพที่เขาเป็นตัวแทนมีอยู่แค่ไม่กี่คนเองค่ะ ไมรอนมีเพื่อนซี้อยู่คนหนึ่งค่ะ ชื่อ วินด์เซอร์ ฮอร์น ล็อควู้ด ที่สาม (โห ชื่อยาวมาก) เรียกสั้นๆ ว่า "วิน" เพื่อนคนนี้ รวย ชาติตระกูลเก่าแก่ และเป็นเจ้าของอาคารที่ไมรอนเช่าสำนักงานอยู่ค่ะ และตลอดทั้งเรื่องนี้ วินมีบทบาทสำคัญในการช่วยเหลือในการสืบสวนของไมรอนเป็นอย่างมากค่ะ เป็นเพื่อนซี้ชนิดที่อ่านแล้ว เราจะอยากมีเพื่อนเเบบนี้บ้างสักคน

เรื่องยุ่งๆ มันเริ่มต้นขึ้นเมื่อ ขณะที่ไมรอนอยู่ในช่วงกำลังเจรจาค่าตัว นักกีฬาอเมริกันฟุตบอลอนาคตไกลคนหนึ่งค่ะ ชื่อ คริสเตียน สตีล ซึ่งคริสเตียนนี้กำลังจะก้าวมาเป็นนักกีฬาอาชีพเต็มตัวครั้งแรก มีตัวเเทนหลายคนทีเดียว ที่อยากเป็นตัวเเทนให้คริสเตียน แต่เขาก็เลือกใช้ไมรอน ตัวแทนนักกีฬาบริษัทเล็กๆ ไมรอนจึงพยายามทำหน้าที่ให้ดีที่สุด (แน่นอนและเขาก็ได้ส่วนแบ่งของค่าตัวนั้นด้วย) ในเวลาเดียวกันนั้น คริสเตียนก็ได้รับซองเอกสารแปลกๆ ค่ะ ในนั้นมีนิตยสารประเภทปลุกใจเสือป่าอยู่ มีคลิปหนีบไว้ที่หน้าๆ หนึ่ง เมื่อเปิดหน้านั้นมาดู มีกรอบเล็กๆ ที่เป็นโฆษณาเซ็กส์โฟนอยู่
ดูเป็นเรื่องธรรมดาใช่ไหม แต่มันไม่ธรรมดาตรงที่ มีอยู่รูปหนึ่งในบรรดารูปสาวๆ คือ รูปแฟนเก่าที่หายสาบสูญไปของคริสเตียน!!!

แฟนเก่าของคริสเตียน ชื่อ เคธี คัลเวอร์ ค่ะ เธอหายไปประมาณปีแล้ว ไม่มีร่องรอยอะไรของเธอเลยค่ะ เจอแค่กางเกงในของเธอตัวเดียว คนสุดท้ายที่เห็นเธอก็คือ คริสเตียน มันทำให้คริสเตียนตกเป็นผู้ต้องสงสัยคนสำคัญ แต่เขาก็ผ่านการสืบสวนมาได้ ไม่มีอะไรที่เป็นหลักฐานว่า คริสเตียนมีส่วนกับการหายไปของเคธี หากแต่เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องอื้อฉาว และหากข่าวเรื่องนี้กลับมาอีกครั้ง จะยิ่งทำให้อนาคตการเล่นอาชีพของคริสเตียนลำบากมากขึ้น อย่างน้อยค่าตัวก็จะลดลง ...นี่จึงทำให้ไมรอนต้องทำการสืบสวนเรื่องนี้ค่ะ 

เรื่องยุ่งๆ ยังไม่จบแค่นั้น ไมรอน "บังเอิญ" เจอกับแฟนเก่าค่ะ เจสสิก้า เป็นเเฟนเก่าของไมรอน ที่เลิกลากันไปได้สี่ปีแล้ว นอกจากเธอเป็นแฟนเก่าไมรอนแล้ว เธอยังเป็นพี่สาวของเคธีอีกด้วย!!! 

เจสสิก้านั้น นอกจากจะสูญเสียน้องสาวแล้ว เมื่อเร็วๆ นี้ เธอก็เพิ่งสูญเสียคุณพ่อไปค่ะ พ่ออาดัม เป็นนักแพทย์ชันสูตรศพ ถูกฆ่าตาย เจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า สาเหตุมาจากการโจรกรรม แต่เจสสิก้าไม่อยากจะเชื่อเช่นนั้นค่ะ โดยเฉพาะยิ่ง อาพอล ดังแคน อดีตตำรวจ ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทกับครอบครัว กลับใจเย็น และเชื่อที่ตำรวจสรุป ซึ่งผิดวิสัยของเขาที่เป็นคนเจ้าอารมณ์ ขี้โมโห ...นี่ล่ะค่ะ เป็นสาเหตุที่ว่า การบังเอิญเจอไมรอน ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ...เธอตั้งใจค่ะ เธออยากให้ไมรอนสืบเรื่องนี้ เจสสิก้าเชื่อว่า พ่อของเธอถูกฆ่าตาย ด้วยสาเหตุจากการสืบหาการหายตัวไปของเคธี

การสืบสวนสนุก เข้มข้นค่ะ ตั้งแต่เริ่มหาว่า ภาพเคธีไปอยู่ในนิตยสารเล่มนั้นได้อย่างไร? ใครเป็นคนส่งซองเอกสารให้คริสเตียน? (ใบ้ว่า ไม่ใช่แค่คริสเตียนคนเดียวที่ได้รับซองเอกสารซองนี้ค่ะ มีคนอื่นด้วย แล้วคนนั้นเกี่ยวข้องอะไรกับการหายไปของเคธี?) สืบสวนไปถึงพฤติกรรมของเคธีก่อนที่เธอจะหายไป ...สุดท้ายแล้ว เรื่องมันซับซ้อน โยงใยไปถึงดราม่าภายในครอบครัวทีเดียวค่ะ พ่อและแม่ของเคธีมีความลับอะไรซ่อนอยู่? 

มีคำถามมากมายค่ะ คำถามสำคัญคือ เคธีหายไปไหน? และสุดท้ายจะเจอเธอไหม? ... หากเรารู้ว่า เคธีอยู่ที่ไหน เรื่องอื่นๆ ก็จะเริ่มคลี่คลาย ... คำตอบมีอยู่ในหนังสือค่ะ ต้องอ่านเองค่ะ