Monday, October 18, 2021

The Midnight Library


 
หนังสือชื่อ  :  The Midnight Library

ผู้แต่ง  :  Matt Haig

สำนักพิมพ์  :  Canongate Books


เป็นหนังสืออันโด่งดัง มีคนรีวิวว่าดีมากมายค่ะ ทั้งที่รีวิวภาษาไทย และภาษาอังกฤษ (ที่เห็น มีแปลเป็นภาษาไทย และภาษาดัตช์ด้วยค่ะ) พอดีให้แอป BorrowBox ของห้องสมุดมีเล่มนี้ให้ยืม เลยกดยืมมาอ่านอย่างไวเลยค่ะ

ถึงแม้ตอนนี้เพิ่งอ่านจบไป แต่ยังไม่อยากกดคืนหนังสือค่ะ ตั้งใจว่าจะเอามาอ่านอีกรอบ เพราะมันดีจริงๆ ค่ะ

หนังสือเล่มนี้เป็นนิยาย ทำให้เรื่องมันย่อยง่าย ไม่ใช่หนังสือปรัชญาเต็มไปด้วยคำกลวงๆ มากมายที่คนอ่านบางทีก็นึกภาพตามไม่ออก เพราะไม่เคยมีประสบการณ์ชีวิตแบบในหนังสือมาก่อน ... แต่เรื่องนี้เป็นนิยาย นำเสนอผ่านประสบการณ์ชีวิตของตัวละครเอกคือ Nora Seed ค่ะ

Nora Seed มีชีวิตที่เธอคิดว่าเฮงซวยค่ะ เธอคิดว่าชีวิตที่ผ่านมาเธอตัดสินใจหลายๆ อย่างในชีวิตผิดพลาด ทำให้ผลกระทบคือชีวิตเธอซวยซ้ำซวยซ้อนเรื่อยๆ มา ไม่ว่าจะเป็น พ่อตาย เธอทนความกดดันของการเป็นนักกีฬาว่ายน้ำไม่ไหว เลยเลิกว่ายน้ำ ทั้งๆ ที่เป็นดาวรุ่งมุ่งโอลิมปิก ยกเลิกการเรียนต่อด้านจิตวิทยา หรือเธอยกเลิกการแต่งงานกับคู่หมั้นในนาทีสุดท้าย หรือเธอยกเลิกการร่วมวงดนตรีกับพี่ชาย ทำให้วงต้องยุบไป พี่ชายก็โกรธ เลิกคุยกับเธอไปเลยค่ะ และล่าสุดก็แมวตายค่ะ ... คือเป็นลูกที่ไม่ได้เรื่อง เป็นน้องสาวที่แย่ คู่หมั้นที่ไม่ดี ลูกจ้างที่ไม่รับผิดชอบ แล้วล่าสุดยังเป็นทาสแมวที่ห่วยอีก 

เมื่อชีวิตมันเฮงซวยถึงขีดสุด ชีวิตเหมือนไม่เคยประสบความสำเร็จในอะไรเลย และเหมือนไม่มีใครต้องการเธอเลย เธอไม่จำเป็นสำหรับใครเลย Nora Seed จึงตัดสินใจกินยาฆ่าตัวตายค่ะ ...​และระหว่างที่ชีวิตของเธออยู่ระหว่างความเป็นความตายนั้น จิตวิญญาณของเธอก็เข้าสู่สถานที่ที่เรียกว่า "ห้องสมุดเที่ยงคืน" โดยในห้องสมุดนั้นมีบรรณารักษ์ Mrs. Elm ดูแลอยู่ค่ะ

ทั้งหมดนี้คือชีวิตหลังความตายค่ะ Nora มีความเสียใจมากมายเหลือเกินเมื่อตอนเธอมีชีวิตอยู่ เสียใจที่ทำให้คนอื่นผิดหวัง เสียใจที่เลิกทำสิ่งที่หลายคนคิดว่าดี แล้วสิ่งที่เธอเลือกทำเอง เธอก็ทนความกดดันไม่ไหว และยกเลิก ฯลฯ ... และที่ห้องสมุดเที่ยงคืนนี้ Nora จะได้มีโอกาสกลับไป "ลอง" ใช้ชีวิตในแบบที่เธอไม่ได้เลือกในตอนแรกค่ะ 

ในแต่ละวันของคนเรา มีเรื่องมากมายที่ต้องตัดสินใจ ซึ่งส่วนใหญ่จะเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เช่น วันนี้จะใส่ชุดอะไร จะกินอะไร ฯลฯ และทุกครั้งของการตัดสินใจ ก็มีความเป็นไปได้เกิดขึ้น ความเป็นไปได้ว่า "ถ้าเราตัดสินใจอีกอย่างหนึ่ง ชีวิตจะเปลี่ยนไปเช่นไร?" เหมือน butterfly effect น่ะค่ะ 

ที่ห้องสมุดเที่ยงคืน Nora ได้มีโอกาสเลือกที่จะกลับไปใช้ชีวิตในสิ่งที่เธอเคยไม่เลือกมาก่อน เช่น เลือกที่จะฝึกว่ายน้ำต่อจนได้เหรียญโอลิมปิก และประสบความสำเร็จในชีวิต หรือเลือกที่จะย้ายไปอยู่กับเพื่อนรักที่ออสเตรเลีย หรือเลือกที่จะแต่งงานกับคู่หมั้นและเปิดผับด้วยกัน หรือเรื่องเล็กๆ เช่น เลือกไม่ปล่อยแมวออกจากบ้าน เพื่อที่ไม่ให้มันไปถูกรถชนตาย ฯลฯ 

และทุกๆ ทางเลือกชีวิตที่ Nora เลือก เธอก็ได้เรียนรู้ว่า แต่ละทางเลือกมีข้อดีข้อเสียของมัน เธอไม่สามารถห้ามความตายไม่ให้เกิดขึ้นได้ ... แม้ในชีวิตที่เธอประสบความสำเร็จในชีวิต (ในสายตาคนอื่น) มันก็มีราคาของมัน ผลกระทบที่เกิดขึ้นกว่าเธอจะมาถึงจุดนั้น การประสบความสำเร็จในชีวิต (ในสายตาคนอื่น) ไม่เท่ากับการมีความสุขในชีวิตหรอกค่ะ ... เธอได้เรียนรู้ที่จะให้อภัยตัวเอง เรียนรู้ว่า จริงๆ แล้ว เธอยังอยากจะมีชีวิตอยู่ และยอมรับตัวเองในอย่างที่ตัวเองเป็น มีความสุขกับตัวเองโดยไม่ต้องกังวลว่าคนอื่นจะคิดอย่างไร 
..........
หนังสือดีมากเลยค่ะ พล็อตเรื่องไม่ได้ซับซ้อนอะไร แต่ที่ทำให้หนังสือเล่มนี้ดีคือเรื่องเล่าระหว่างทางต่างหาก การค่อยๆ ค้นพบความสุขภายในของ Nora ... การค่อยๆ เติบโตขึ้นทางความคิดของ Nora พร้อมๆ กับคนอ่านค่ะ 
.
มีประโยคเด็ดๆ กินใจมากมายจากหนังสือเล่มนี้ค่ะ จนต้องกลับมาอ่านซ้ำอีกรอบ เพื่อซึมซับเรื่องราวให้ดีขึ้น เช่น 
"The only way to learn is to live"
"It seems impossible to live without hurting people."
"You might need to stop worrying about other people's approval, Nora."
"Never underestimate the big importance of small things."
...
อ่านเล่มนี้ แล้วอยากหาหนังสือชื่อ Walden ของ Henry David Thoreau มาอ่านเลยค่ะ เพราะเขาเป็นนักปรัชญาคนโปรดของ Nora และหนังสือเล่มนี้ยกข้อเขียนของ Walden มาบ่อยมาก