Monday, March 13, 2023

สำเร็จสบายสบาย เพราะเรียนรู้ไวแบบคนขี้เกียจ

 


หนังสือชื่อ  :  สำเร็จสบายสบาย เพราะเรียนรู้ไวแบบคนขี้เกียจ

ผู้แต่ง  :  นะโอะยุกิ ฮนดะ

ผู้แปล  :  กมลวรรณ เพ็ญอร่าม

สำนักพิมพ์  :  อัมรินทร์พริ้นติ้ง แอนด์ พับลิชชิ่ง


หนังสือเล่มนี้ตีพิมพ์เป็นภาษาไทยครั้งแรกปี 2565 ค่ะ แต่ไม่ทราบว่าต้นฉบับตีพิมพ์ปีไหน เนื่องจากเนื้อหาข้างในบางอย่างค่อนข้างเก่าและล้าสมัย ...แต่ถึงอย่างนั้น กลยุทธและวิธีคิดของผู้เขียนก็น่าสนใจดีค่ะ

เพื่อจะอ่านหนังสือเล่มนี้ให้สนุก เราต้องยอมรับกับตัวเองก่อนค่ะ ว่า "เราเป็นคนขี้เกียจ" เพราะคนเอเชียโตมากับค่านิยมชอบคนขยัน คนทำงานหามรุ่งหามค่ำ ขยัน = รวย หรือ ขยัน = ประสบความสำเร็จในอนาคต ... แต่จริงๆ มันไม่ใช่อย่างนั้นหรอกค่ะ

หนังสือเล่มนี้เหมาะกับผู้ใหญ่วัยทำงานแล้วน่ะค่ะ ผู้เขียนเน้นเรื่องการศึกษาไม่มีที่สิ้นสุด และเห็นว่า "การศึกษา" ก็คือการลงทุนทางด้านเวลา ดังนั้นก็จึงเหมือนการลงทุนด้วยเงินแบบอื่นๆ คือเราต้องรู้ก่อนว่าเราจะเรียนอะไร และเป้าหมายของการเรียนนั้นคืออะไร ไม่ใช่เรียนเพื่อเอาความรู้อย่างเดียว ควรจะมีเป้าหมายที่วัดผลได้ เช่น เรียนเพื่อเอาใบประกาศฯ เรียนเพื่อเพิ่มคอนเนคชั่นเฉพาะทาง เรียนเพื่อทำรายได้เพิ่มขึ้น ฯลฯ

ผู้เขียนยกตัวอย่างกลยุทธของตนเองในการเรียน -- แต่หนังสือฮาวทูแบบนี้ มีจุดอ่อนที่ความสำเร็จของแต่ละคนเป็นเรื่องส่วนตัวไงค่ะ ในบริบทแบบนั้น เขาทำแบบนั้นเขาจึงประสบความสำเร็จ ...แต่ในบริบทส่วนตัวของเรา การทำแบบเขาก็ไม่ได้รับประกันว่าจะประสบความสำเร็จเช่นเขา อีกอย่างความสนใจของเรากับเขาก็ไม่เหมือนกัน -- ดังนั้นอ่านหนังสือฮาวทูแบบนี้  จึงควรอ่านแบบผ่านๆ เอาแนวคิด ทัศนคติของผู้เขียนเป็นหลัก แล้วก็นำมาปรับใช้กับชีวิตตัวเองค่ะ

ผู้เขียนบอกว่า การเรียนที่แนะนำควรจะหาความรู้ไว้ คือ ภาษา IT และการเงิน -- ทั้งสามอย่างนี้ เป็นสิ่งที่ผู้ใหญ่ควรศึกษาไว้ค่ะ 

ไอเดียของผู้เขียนน่าสนใจดีค่ะ คือแทนที่จะขยัน หาความรู้แบบเหวี่ยงแห เหมือนการกระจายการลงทุน เรียนมันหมดทุกอย่าง แต่เราควรจะเรียนโดยตั้งเป้าถึงความสำเร็จ เรียนแบบมีเป้าหมายว่าอยากจะเชี่ยวชาญหรือมีความรู้ในด้านใด -- และวางแผนการเรียนอย่างเป็นระบบ เป็นแผนระยะสั้น 6 เดือน แผนรายเดือน รายสัปดาห์ รายวัน ให้เป็นการวางแผนอย่างยืดหยุ่น ปรับให้เหมาะกับสถานการณ์ และพยายามทำตามแผน เพราะ "เวลา" คือสินทรัพย์รูปแบบหนึ่งค่ะ

ผู้เขียนมีบทแนะนำเรื่องการอ่านหนังสือเพื่อเตรียมสอบ ซึ่งส่วนตัวเราไม่ค่อยเห็นด้วยค่ะ คือมันขึ้นกับเรื่องที่จะสอบมากกว่า ของผู้เขียนคือสอบการเป็นผู้เชี่ยวชาญไวน์ ผู้เขียนจึงแนะนำให้อ่านหนังสือดีๆ เล่มเดียว แต่อ่านหลายรอบก็พอ -- แต่สำหรับสาขาวิชาอื่นที่ต้องค้นคว้า อ่านเล่มเดียวไม่ได้หรอกค่ะ 

หรือเรื่องการจดบันทึก ผู้เขียนบอกให้จดใน Excel -- มันเก่าไปไหมอ่ะ สมัยนี้มีแอปดีๆ ในการจดโน้ตตั้งมากมาย ใช้ Notion ก็ได้ หรือ goodnote ฯลฯ 

หรือเรื่องอ่านทบทวน ที่ผู้เขียนแนะนำให้พกหนังสือไปอ่าน และถ้าไม่มีเวลาก็ฉีกหนังสือพิมพ์เฉพาะส่วนที่ต้องการอ่านพกไปไหนมาไหนด้วย -- ไอเดียนี้เก่ามาก สมัยนี้มีไอแพค อีรีดเดอร์ อ่านหนังสือแทบไม่ต้องใช้กระดาษด้วยซ้ำ 

คือเทคนิคบางอย่างในการเรียนของผู้เขียนก็เป็นเทคนิคส่วนตัวของเขาน่ะค่ะ มันเหมาะกันเขา งานที่เขาต้องการเชี่ยวชาญ แต่ไม่เหมาะกับเรา หรือล้าสมัยแล้ว

สรุปคือ เป็นหนังสือที่ไม่แย่หรอกค่ะ แต่อยู่ในประเภทอ่านก็ได้ ไม่อ่านก็ได้ค่ะ ถ้าไม่มีเวลาแต่อยากอ่าน ก็อ่านสรุปเอาดีกว่าค่ะ



Wednesday, March 8, 2023

Beach Read

 


หนังสือชื่อ  :  Beach Read

ผู้แต่ง  :  Emily Henry

สำนักพิมพ์  :  Penguin Random House UK


เป็นนิยายโรแมนติกคอมเมดี้ เบาๆ สบายๆ ค่ะ  อ่านแล้วจะไม่อยากกลับมาอ่านนิยายโรมานซ์ไทยพล็อตตลาดๆ อีกเลยค่ะ

// อันนี้ขอบ่น นิยายโรมานต์ไทยเนี่ย พล็อตเดียวกันเกือบทั้งหมดเลยค่ะ พระเอกต้องนิสัยรวย บางเล่มก็เข้าใจผิดว่านิสัยเอาแต่ใจของผู้ชายคือการแสดงภาวะผู้นำ ส่วนนางเอกก็ต้องสวย และยังถือพรรมจรรย์ รักตัวเองน้อยกว่ารักผู้ชาย -- เหมือนอยู่ในโลกความฝันง่า 

เรื่องนี้เขียนเล่าในมุมของนางเอกค่ะ นางเอกชื่อ January เป็นนักเขียนนิยายโรแมนติก แบบจบแฮปปี้แอนด์ดิ้ง รักกันตลอดไปน่ะค่ะ -- ตอนตอนนี้นางเอกของเรากำลังผจญกับวิกฤติของชีวิต 

นางเอกเขียนนิยายรักได้เพราะมีแรงบันดาลใจจากความรักของพ่อกับแม่ของเธอค่ะ แม่ของเธอได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็ง และพ่อก็อยู่เคียงข้างแม่ และร่วมฝ่าฝันจนมะเร็งหายไปทั้งสองครั้งสองครา ด้วยเหตุที่ January เติบโตมาในครอบครัวที่อบอุ่น ดังนั้นเธอจึงมีบุคลิกร่าเริง ปาร์ตี้เกิร์ล และเชื่อมั่นในความรัก มีแฟนที่รักกันมาตั้งแต่สมัยเรียน 

...และโลกสีชมพูของ January ก็มาถล่มถลายลง ในวันที่พ่อของเธอเสียชีวิต และเธอรู้ความจริงในวันนั้นว่า พ่อมีเมียอีกคน! และดูเหมือนแม่ก็รู้เรื่องนี้ด้วย... ทั้งหมดนี้ไม่มีคำอธิบาย (พ่อตายไปแล้ว แม่ไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้อีก) 

เรื่องของพ่อทำให้ January เปลี่ยนไป และแฟนของเธอก็รับไม่ได้กับ January เวอร์ชั่นซึมเศร้านี้ เลยขอเลิกกับเธอค่ะ ...จบกันไปกับรักเจ็ดปี 

ทั้งหมดนี้ทำให้ January เริ่มคลางแคลงใจกับ "ความรัก" ...และทำให้เธอเขียนนิยายรักไม่ออกมาหลายเดือนแล้ว บรรณาธิการก็โทรมาทวงเอาๆ ...แต่ January หมดไฟเสียแล้ว

January มาเจอกับพระเอกคือ Augustus ที่บ้านพักตากอากาศของพ่อค่ะ พ่อของนางเอกทิ้งบ้านให้นางเอกเป็นมรดก นางเอกซึ่งใกล้จะถังแตกเต็มทน เลยมาดูบ้าน กะว่ามาเคลียร์ของและขายบ้านทิ้ง ส่วนพระเอกเป็นเพื่อนบ้านน่ะค่ะ ทั้งคู่เคยเจอกันมาก่อน เรียนวิทยาลัยเดียวกัน แต่ไม่ได้เป็นเพื่อนสนิทกัน ...พอมาเจอกัน อะไรๆ ที่เคยคิดว่าไม่มีทางเป็นไปได้ ก็เริ่มเป็นไปได้ขึ้นมา

ทั้งคู่เริ่มสานสัมพันธ์เป็นเพื่อนกันอีกครั้ง เริ่มพนันกัน เพราะนิยายที่ทั้งคู่เขียนสะท้อนว่าทั้งสองนั้นมองโลกคนละมุมกัน เลยพนันกันว่าให้พระเอกเขียนนิยายแนวโรแมนติก ส่วนนางเอกก็เขียนแนวหม่นหมอง ใครได้ตีพิมพ์ก่อนคนนั้นชนะ ...ระหว่างนี้ ทุกสุดสัปดาห์ ทั้งคู่ก็แชร์ประสบการณ์การเก็บข้อมูลเขียนนิยายในมุมของกันและกัน 

นั่นแหละ กิจกรรมที่ทำร่วมกัน ทำให้เริ่มเข้าใจกันและกัน และก็สานต่อเป็นความรัก ...แต่ไม่แน่ว่าจะสำเร็จหรือไม่ เพราะต่างคนก็ต่างมีปม นางเอกที่เริ่มไม่แน่ใจว่า รักแท้คืออะไร กับพระเอกที่มีปมครอบครัวที่แม่ทนอยู่กับพ่อที่ทำร้ายร่างกายตัวพระเอกที่เป็นลูก และไม่ยอมพาพระเอกหนีไป สุดท้ายก็หนีไปคนเดียวทิ้งพระเอกไว้กับพ่อ มันคือความรู้สึกของการไม่ถูกเลือกน่ะค่ะ ไม่ดีพอที่จะถูกเลือก

หนังสือสนุกค่ะ เป็นสนุกแบบผู้ใหญ่ เป็นรักแบบมีเหตุผล แบบโลกความเป็นจริง ไม่ได้หวานเป็นนิทานเจ้าหญิงเจ้าชายน่ะค่ะ และไม่ได้จบแบบรักกันตลอดไป หรือ Happy ending แต่แค่ Happy-for-now ก็ดีมากแล้ว