Monday, July 31, 2023

The Shards

 


หนังสือชื่อ  :  The Shards

ผู้แต่ง  :  Bret Easton Ellis

สำนักพิมพ์  :  Swift Press 2023


อ่านจบแล้ว นิยามได้คำเดียวว่า เป็นเล่มที่ "จิต" ค่ะ ... เล่มหนามาก หลายหน้ามาก เขียนแบบบรรยายน้ำท่วมทุ่ง เผินๆ ดูเหมือนบรรยายแบบไร้ประโยชน์ แต่จริงๆ แล้วคือเนื้อเรื่องมันค่อยๆ เข้มขึ้นอย่างช้าๆ (ช้ามาก) แต่กว่าเราจะรู้ตัว เราก็ตกลงไปในหลุมเสียแล้ว

เป็นนิยายทิลเลอร์ค่ะ ผู้เขียนเขียนเหมือนกำลังเล่าประสบการณ์ของตัวเอง สมัยที่ยังอายุ 17 กำลังเรียนมัธยมใหนโรงเรียนเอกชนปีสุดท้าย (ตอนนี้ผู้เขียนอายุ 56 แล้ว)

ในปี 1981 Bret หรือตัวผู้เขียนอายุ 17 ปี เป็นลูกคนรวย อยู่ย่านฮอลลิวูด มีเพื่อนที่สนิทในกลุ่มคือ Susan Reynolds ซึ่งเป็นแฟนกับ Thom Wright และ Dibbie เป็นแฟนกับตัวผู้เขียนเอง -- สรุปคือมี 4 คน สองคู่

Thom กับ Susan เป็นคิงกับควีนของโรงเรียนค่ะ สวย หล่อ เก่งทั้งคู่ เรียกว่าเป็นคู่ที่เพอร์เฟคเหมือนเจ้าหญิงเจ้าชาย Susan เรียนเก่งเป็นหัวหน้าห้อง ในขณะที่ Thom หล่อและเป็นนักกีฬา ส่วน Debbie เป็นลูกของ Terry ผู้กำกับชื่อดังในฮอลลีวูด ในขณะที่ตัว Bret ภาพจำของคนทั่วไป คือเด็กน่ารักที่เป็นเพื่อนสนิทกับคนดัง 

Bret เป็นเกย์ ในปี 1981 ที่การเป็นเกย์ยังไม่ได้รับการยอมรับ ดังนั้น Bret จึงไม่ได้พูดออกมาดังๆ ไม่มีใครรู้ มีแฟนคือ Debbie เป็นผู้หญิง แต่ขณะเดียวกันก็เล่นหูเล่นตากับพ่อของ Debbie! -- ความลับของ Bret นี้มี Susan ที่ระแคะระคายค่ะ แต่ Bret ไม่ยอมรับ ดังนั้น Susan จึงบอกได้แค่ว่า "ความลับของเธอจะปลอดภัยเมื่ออยู่กับฉัน" -- อารมณ์ขิงว่าฉันรู้จักเธอนะ แต่ฉันจะไม่แฉเธอ

ทุกอย่างดำเนินไปอย่างราบรื่น จนกระทั่งการมาถึงของนักเรียนใหม่ คือ Robert Mallory 

Robert เป็นเด็กผู้ชายหน้าตาดี นิสัยเป็นมิตร สนิทกับเพื่อนๆ ในกลุ่มอย่างรวดเร็ว แต่สำหรับ Bret แล้วเขารู้สึกว่า Robert มีบางอย่างปิดบังอยู่ และดูจะไม่ใช่เรื่องดี

ตัวละครในเรื่องทุกคนเทาๆ หมดเลยค่ะ ไม่มีใครดีกว่าใคร สะท้อนเห็นถึงวัยรุ่นที่ใช้ชีวิตขับเคลื่อนด้วยแรงปรารถนา ไม่มีใครมีศีลธรรม ทุกคนเป็นเด็กที่พ่อแม่รวยโครต แต่ไม่มีเวลาให้ลูก คือพ่อแม่ของเด็กพวกนี้ก็ยุ่งแต่เรื่องของตัวเอง ไม่สนใจลูก จึงไม่แปลกที่ลูกเองก็ยุ่งอยู่แต่ความต้องการของตัวเอง โดยไม่ได้สนใจความรู้สึกของคนอื่น หรือศีลธรรมอะไร -- ตัวอย่างเช่น Bret ที่เป็นแฟนกับ Debbie แล้วยังไปมีอะไรกับพ่อของ Debbie อีก คือไม่ได้คิดแม้แต่น้อยว่า Debbie จะรู้สึกอย่างไรถ้ารู้เข้า -- หรืออย่าง Susan ที่เป็นแฟนกับ Thom แล้วยังไปมีอะไรกับ Robert เพื่อนในกลุ่มเดียวกัน แล้วก็เลิกกับ Thom ไปหา Robert หลังจากที่ทุกอย่างถูกเปิดเผยขึ้น (คือถ้าไม่มีการแฉ นัง Susan กับ Robert คงจะยังตีสองหน้าต่อไป) 

ในระหว่างนั้น มีเหตุฆาตกรรมต่อเนื่องเกิดขึ้นในย่านนั้น ฆาตกรเรียกตัวเองว่า the Trawler มีเด็กวัยรุ่นผู้หญิงถูกลักพาตัวไป และต่อมาเจอเป็นศพในสภาพน่าสยดสยอง -- ก่อนเกิดเหตุลักพาตัว มีรายงานว่า เหยื่อมักบ่นเรื่องมีโทรศัพท์แปลกๆ โทรหา แล้วไม่พูด สัตว์เลี้ยงในบ้านหายไป หรือเฟอร์นิเจอร์ในห้องของเหยื่อมีการเคลื่อนย้าย แต่ไม่รู้ว่าเป็นฝีมือใคร รวมถึงมีรายงานการบุกรุกในย่านที่อยู่อาศัยของเหยื่อ

ไม่มีใครสนใจเรื่องฆาตกรต่อเนื่องนี้ค่ะ ยกเว้น Bret เพราะ Bret สงสัยว่า Robert จะมีส่วนเกี่ยวข้อง และ Bret ยิ่งเชื่อเช่นนี้สนิทใจ เมื่อเพื่อนและคู่ขาลับๆ ของเขา คือ Matt Kellner หายตัวไป และต่อมาพบเสียชีวิต

การตายของ Matt ตำรวจเชื่อว่าเป็นเพราะเสพยาเกินขนาด แต่ Bret ไม่เชื่อเช่นนั้น ยิ่งมารู้ว่าคนสุดท้ายที่ Matt มีนัดเจอคือ Robert ยิ่งทำให้ Bret ปักใจเชื่อว่า Robert มีส่วนเกี่ยวข้อง หรือ Robert นั่นแหละคือ the Trawler -- แต่ไม่ว่า Bret จะเล่าเรื่องนี้ให้ใครฟัง ก็ไม่มีใครเชื่อค่ะ เพราะวิธีการเล่าของ Bret นั้นในสายตาผู้ใหญ่มันไม่น่าเชื่อถือ 

คือทุกคนในเรื่องเป็นพวกคิดถึงตัวเองก่อนทั้งนั้นค่ะ ดังนั้นเลยไม่รู้สึกผูกพันกับตัวละครคนไหนเป็นพิเศษ หนังสือเล่าในมุมความทรงจำของ Bret ทำให้เรารู้สึกว่า Bret เป็นพวกใช้ชีวิตขับเคลื่อนไปตามอารมณ์ และถึงแม้เรื่องเล่าย้อนหลัง เราก็ไม่ได้เห็นความรู้สึกผิดแม้เศษเสี้ยวของการกระทำในอดีตของเขาเลย 

ถ้าหวังจะอ่านหนังสือเล่มนี้เพื่อหาว่าใครคือฆาตกรต่อเนื่อง the Trawler แล้วคุณจะผิดหวังค่ะ เพราะสุดท้าย the Trawler ก็ยังอาละวาดต่อไป และจับไม่ได้ว่าใครทำ -- แต่ถ้าอยากอ่านเรื่องจิตๆ ความคิดจิตๆ ล่ะก็ เรื่องนี้เหมาะเลยค่ะ 


Sunday, July 2, 2023

Beautiful World, Where Are You

 


หนังสือชื่อ  :  Beautiful world, where are you

ผู้แต่ง  :  Sally Rooney

สำนักพิมพ์  :  Faber & Faber Limited


ไม่ใช่แนวอ่ะค่ะ คือเป็นหนังสือที่อ่านได้เรื่อยๆ ไม่มีพีก ไม่คุ้นกับวิธีการนำเสนอเรื่องของผู้แต่ง รวมถึงหัวข้อที่ตัวละครเขียนถึงกันหรือพูดคุยกันนั้น ไม่ใช่เรื่องที่อยู่ในความสนใจส่วนตัวของเรา แต่ที่ทำให้ยังอ่านได้อยู่จนจบ ก็เพราะสำนวนการเขียนค่ะ สำนวนดี บรรยายเรื่องต่างๆ ได้ดี อ่านสมูท 

จิตใจคนเรายากแท้ยั่งถึงค่ะ หนังสือเล่มนี้เป็นเรื่องของสองเพื่อนรัก คือ Eileen และ Alice 

Eileen เป็นผู้หญิงสวย ทำงานเป็นผู้ช่วยบรรณาธิการในสำนักพิมพ์แห่งหนึ่งในกรุงดับลิน มีพี่สาวที่กำลังจะแต่งงาน มีเพื่อนสมัยเด็กชื่อ Simon ซึ่งเป็นคนที่ Eileen แอบชอบ แต่ไม่กล้าพัฒนาความสัมพันธ์ให้มากไปกว่าเป็นเพื่อนกัน เพราะกลัวว่าถ้ากลายเป็นแฟนกันแล้ว เกิดเลิกกัน จะมองหน้ากันไม่ติด แล้วกลายเป็นเสียเพื่อนไป 

Alice เป็นนักเขียนที่มีชื่อเสียง กำลังอยู่ในช่วงพักเบรคหลังจากป่วยทางจิตจนต้องเข้าโรงพยาบาล โดยไปพักผ่อนที่ Ballina แล้วได้เจอกับ Felix ทางแอปทินเดอร์

สรุปก็คือเป็นเรื่องของคนสองคู่ (Eileen กับ Simon และ Alice กับ Felix) ผู้เขียนเขียนแบบบรรยาย เหมือนการบรรยายละครให้คนตาบอดฟัง เราคนอ่านจะไม่รู้ว่าตัวละครคิดอะไรอยู่ รับรู้แค่การกระทำ ส่วนความคิดของตัวละครจะบรรยายจากอีเมล์ที่ Eileen และ Alice เขียนถึงกัน 

เนื่องจากผู้เขียนเขียนแบบบรรยายความจริงโดยไม่ตัดสิน คล้ายๆ กับการสังเกตพฤติกรรมคนในการสังเกตทางวิทยาศาสตร์ ดังนั้นเราคนอ่านจะงงๆ กับการกระทำบางอย่างของตัวละคร (เพราะเราไม่ทราบแรงจูงใจของการทำเช่นนั้น) หรืออาจจะเพราะพื้นฐานทางสังคมของตัวละครกับคนอ่านไม่เหมือนกัน ทำให้เราไม่ค่อยเข้าใจการกระทำของพวกเขานัก

ตัวละครแต่ละคนดูมีพฤติกรรมทำเรื่องง่ายให้เป็นเรื่องยาก มักตั้งคำถามกับ "ความหมายของชีวิต" ตั้งคำถามให้เชิงปรัญญา พยายามจะลุ่มลึก แต่ผลที่ได้กลับฉาบฉวย 

ไม่รู้สิ อ่านแล้วเราไม่ค่อย "อิน" กับเรื่องพวกเขา เรื่องปรัญญาชีวิตที่พวกเขาตั้งคำถามกับตัวเองก็ไม่อิน ผู้เขียนพยายามเชื่อมโยงพระเจ้าเข้ากับความสับสนในชีวิตของพวกเขา โดยคิดว่า "ความรัก" ที่เป็นคำสอนของพระเจ้าจะคือคำตอบ ...แต่คือเบื้องหลังของคนอ่านอย่างเรา เราไม่ใช่คริสเตียนไง เราเลยงงๆ 

บางครั้งพวกผู้หญิงก็ทำเรื่องง่ายให้เป็นเรื่องยาก อย่างตอนที่ Eileen อยากรักษาความเป็นเพื่อนกับ Simon ตลอดไป ... แล้วเธอจะนอนกับเขาทำไม??? คือมันย้อนกลับไม่ได้แล้ว ถ้าอยากเป็นเพื่อนก็อย่านอนกับเพื่อน นี่ไปยั่วเขา นอนกับเขา แล้วสับสน อยากขอเป็นแค่เพื่อน What??? 

นิยายมันไม่มีจุดพีค เรื่องมันเรื่อยๆ ข้อดีคือมันสมจริง เหมือนชีวิตจริงๆ ของพวกเรานี่แหละ ที่บางทีทำอะไรไปโดยไม่มีเหตุผล แต่คือพอเป็นนิยาย ไปจนเกือบจบ ยังสงสัยว่ามันจะจบเล่มอย่างไร เพราะมันไม่มีอะไรตื่นเต้นเลย ปมบางอย่างก็ทิ้งไว้อย่างนั้นแหละ เช่น เรื่องพี่ชายของ Felix หรือครอบครัวของ Eileen 

นิยายจบดีนะคะ จัดว่าเป็นกึ่งๆ นิยายรักโรแมนติกก็ได้ค่ะ เพียงแต่วิธีเล่าของผู้แต่งทำให้มันไม่โรแมนติก 55 ส่วน NC เนี่ย ชัดเจนประหนึ่งนั่งสังเกตการณ์อยู่ข้างเตียงเลยค่ะ เหอ เหอ