หนังสือชื่อ : Killing Moon
ผู้แต่ง : Jo Nesbo
ผู้แปล : Sean Kinsella
สำนักพิมพ์ : Harvill Secker
เป็นนิยายสืบสวนในชุดของนักสืบ Harry Hole ค่ะ
ตอนนี้ Harry ไปเป็นโรบินฮู้ดอยู่ที่ LA อเมริกา เขากำลังคิดจะจบชีวิตตัวเองด้วยการดื่มเหล้าๆ เมาหัวราน้ำ จนเงินหมด และจะกลับไปปลิดชีวิตที่ห้อง -- แต่มีเหตุการณ์เปลี่ยนชีวิตเมื่อหญิงชราคนหนึ่งเลี้ยงเหล้าเขาและขอให้เขาช่วย หญิงชราอดีตเป็นดารายืมเงินมาเฟียมาลงทุนทำภาพยนตร์แต่กลับขาดทุน ไม่มีเงินจ่าย มาเฟียเม็กซิโกเลยจะจับตัวเรียกค่าไถ่
จุดที่ทำให้ Harry ยื่นมือเข้ามาช่วยเนื่องจากความรู้สึกว่า เธอคล้ายแม่ของเขา ตาเศร้าที่มองมาเหมือนเข้าใจและยอมรับในชะตากรรมทุกสิ่งที่จะเกิดขึ้น มันสะกิดต่อมความรู้สึกผิดที่ Harry เคยทำไว้กับแม่ของเขาค่ะ
ในขณะเดียวกันที่นอร์เวย์ มีหญิงสาวสองคนหายตัวไป ทั้งสองมีสิ่งหนึ่งที่เชื่อมโยงกันคือต่างมี sugar daddy คนอุปภัมป์คนเดียวกันคือ เศรษฐีที่ชื่อ Markus Roed
หญิงคนแรกที่พบศพคือ Susanne Anderson สภาพศพคือถูกปาดคอ ดวงตาหายไปข้างหนึ่ง และสมองหายไป
หญิงคนที่สองที่พบศพในเวลาต่อมา คือ Bertine Bertilsen เจอศพในสภาพที่หัวถูกตัดออก ส่วนหัวหายไป เจอแต่ตัว
Markus Roed อ้างว่าช่วงเวลาที่หญิงสาวทั้งสองคนหายไปนั้น เขาอยู่กับภรรยาของเขา แต่ตำรวจไม่ค่อยเชื่อนัก -- ข่าวที่เขาเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีฆาตกรรมสร้างความเสียหายให้แก่ภาพลักษณ์และธุรกิจของเขามาก ดังนั้น ผ่านคำแนะนำของทนาย เขาจึงจ้างนักสืบเอกชนฝีมือดีมาช่วยตำรวจคลี่คลายคดีนี้ เพื่อให้คดีนี้จบให้เร็วที่สุด นักสืบเอกชนที่เขานึกถึงก็คือ Harry Hole ค่ะ -- และ Harry ก็เรียกเงินในจำนวนที่เพียงพอที่จะจ่ายค่าไถ่หญิงชราได้
นี่คือจุดเริ่มต้นให้ Harry เข้ามาข้องเกี่ยวในคดีนี้
.
ความรู้สึกหลังอ่าน คือ สนุกมากกกก และก็ขยะแขยงมากด้วย
สรุปสั้นๆคือ ฆ่าด้วยพยาธิ!
ล้ำมาก คนเขียนคิดได้ไง แล้ววิธีการที่ฆาตกรใช้ก็ล้ำมาก ขยะแขยงด้วย
เราทายถูกด้วยว่าฆาตกรคือใคร แต่ก็เมื่อตอนอ่านเลยครึ่งเล่มไปแล้ว แต่ก็ยังไม่มั่นใจเต็มร้อย เพราะ Jo Nesbo ฉลาด มีตัวหลอก มีตัวละครซึ่งหลอกให้เราคิดว่าเขาอาจจะคือฆาตกร แถมตอนที่ดูเหมือนทุกอย่างจะคลี่คลายได้แล้ว จับคนร้ายได้แล้ว ... กลายเป็นว่านั่นไม่ใช่คนร้ายตัวจริง
เล่มนี้จบดีค่ะ เหมือน Harry จะเริ่มมูฟออนแล้ว เริ่มให้อภัยตัวเองและก้าวเดินต่อ ในขณะที่ Katrine Bratt ก็เริ่มสำนึกถึงความผิดพลาดที่เธอทำลงไป ซึ่งก็สายเกินไป แก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว คงต้องอยู่กับมันไปตลอดชีวิตที่เหลือของเธอ และทำวันข้างหน้าให้ดีที่สุด
No comments:
Post a Comment