Monday, October 30, 2023

โกหก "น่า" ตาย

 


หนังสือชื่อ  :  โกหก "น่า" ตาย

ผู้เขียน  :  ฮิงาชิโนะ เคโงะ

ผู้แปล  :  เกวลิน ลิขิตวิทยาวุฒิ

สำนักพิมพ์  :  ไดฟุกุ บริษัท บุ๊ค ไทม์ จำกัด


เป็นเรื่องสั้นค่ะ มีทั้งหมด 5 เรื่องด้วยกัน เป็นการสืบสวนคดีของนายตำรวจคางะ เคียวอิจิโร่ -- ถึงแม้ผู้แต่งจะคนเดียวกันกับหนังสือสืบสวนชุดกาลิเลโอ แต่ให้ความรู้สึกคนละอารมณ์กัน กาลิเลโอจะออกแนวแฟนตาซีกว่า แต่เล่มนี้จะคล้ายกับคดีฆาตกรรมในชีวิตจริงมากกว่าค่ะ

เรื่องที่ 1 - โกหกอีกแค่ครั้งเดียว

อดีตนักเต้นบัลเล่ต์ถูกพบตกตึกจากห้องพักบนชั้นเจ็ดเสียชีวิต รูปการเหมือนการฆ่าตัวตาย แต่กลายกลับไม่ได้เป็นเช่นนั้น ...เรื่องทั้งหมดมีที่มาจากการโกหกครั้งแรกแค่ครั้งเดียว และเพื่อปกปิดการโกหกในครั้งนั้น ก็เลยจำต้องโกหกให้มากขึ้นไปอีกๆ ...จนสุดท้ายจบด้วยโศกนาฏกรรม

เรื่องที่ 2 - ไฟเย็น

พ่อผู้กลับบ้านหลังเลิกงาน เมื่อถึงบ้าน กลับพบว่าภรรยาเสียชีวิต และลูกชายอายุหนึ่งขวบหายตัวไป -- ดูเหมือนมีคนบุกรุกขโมยของ สังหารผู้หญิงเจ้าของบ้าน และลักพาตัวเด็กน้อยไป ... แต่ความจริงกลับไม่เป็นเช่นนั้น ครอบครัวที่ดูเหมือนอบอุ่น กลับมีเบื้องหลังที่เย็นชา

เรื่องที่ 3 - ฝันที่สอง

คุณแม่เลี้ยงเดี่ยวเลิกงานกลับบ้าน เพื่อพบว่าบ้านโดนรื้อค้น และพบศพแฟนคนใหม่เสียชีวิตอยู่ในห้อง -- เรื่องนี้รู้สึกว่าแรงจูงใจของฆาตกรไม่มากพอค่ะ มันจะพีกกว่านี้ ถ้ามีเรื่องของการพยายามล่วงละเมิดเข้ามาด้วย เพราะพบศพผู้ตายในห้องของลูกสาว คือถ้าจะมานอนรอแฟน ก็ทำไมไม่รอที่ห้องแฟนล่ะ มารอที่ห้องเด็กทำไม

เรื่องที่ 4 - การคำนวณรวน

ภรรยาผู้โศกเศร้ากับการจากไปของสามีด้วยอุบัติเหตุอย่างกระทันหัน ในขณะเดียวกันสถาปนิกผู้เคยออกแบบบ้านให้พวกเขาก็หายตัวไปอย่างลึกลับในวันเดียวกัน สองคดีนี้เชื่อมโยงเกี่ยวข้องกันค่ะ การเลือกคนผิดและพันธะสมรสที่สลัดหลุดไม่ง่าย -- เราชอบเรื่องนี้ที่สุดในเล่มค่ะ หักมุมดี

เรื่องที่ 5 - คำเตือนของเพื่อน

เรื่องนี้ไม่มีคนตาย แค่ "เกือบ" ...เมื่อ ฮางิวาระ ทามตสึ เพื่อนของคุณตำรวจคางะประสบอุบัติเหตุ ขับรถหลับในชนกำแพงข้างทางด่วน คางะซึ่งรู้จักเพื่อนของตนดี ไม่เชื่อว่าเพื่อนของเขาจะขับรถหลับใน และด้วยสังหรณ์ของตำรวจ เขาสังเกตเห็นความผิดปกติของคนใกล้ชิดของทามตสึ พฤติกรรมที่ผิดวิสัย จึงนำไปสู่การหาหลักฐาน และบอกสิ่งที่เขาระแวงให้แก่เพื่อนทราบ .... เรื่องนี้แสดงให้เห็นว่า จิตคนยากแท้หยั่งถึงเนอะ 

คิสเดอะเกิร์ล Kiss the girls

 


หนังสือชื่อ  :  คิสเดอะเกิร์ล (Kiss the girls)

ผู้เขียน  :  James Patterson

ผู้แปล  :  สุวิทย์ ขาวปลอด

สำนักพิมพ์  :  วรรณวิภา


สนุกค่ะ อ่านเสียงานเสียการ อ่านวางไม่ลง เพราะอยากรู้ว่าฆาตกรคือใครกันแน่ 

อ่านงานแปลของคุณสุวิทย์ ขาวปลอดมาตั้งแต่เด็กๆ ค่ะ สำนวนแปลที่คุ้นเคย สุวิทย์เหมาะกับการแปลนิยายแอคชั่นมากค่ะ สำนวนการเขียนทำให้คนอ่านอยากเราจินตนาการภาพในหัว เหมือนกำลังดูหนังแอคชั่นมันส์ๆ เรื่องหนึ่งเลยค่ะ

เรื่องนี้เป็นหนึ่งในซีรี่ย์สืบสวนคลี่คลายคดีของ ดร.อเล็กซ์ ครอส จิตแพทย์ที่เป็นนักสืบ -- คดีนี้เป็นเรื่องส่วนตัว เมื่อหลานสาวของ ดร.ครอส หายตัวไปในขณะกำลังเรียนที่มหาวิทยาลัยดุ๊ก ดังนั้น ดร.ครอส กับคู่หูเลยต้องเดินทางจากวอชิงตัน ดีซี ไปฟลอริดา เพื่อถามหาความคืบหน้าของคดีค่ะ

พอไปถึง กลายเป็นว่า เรื่องมันใหญ่กว่าที่คิด คือดูเหมือนไม่ใช่แค่ นาโอมิ หลานสาวของ ดร.ครอส เท่านั้นที่หายตัวไป แต่ในพื้นที่นั้น มีเด็กสาวหายตัวไปหลายคน และต่อมามีการพบศพสภาพถูกทารุณของเด็กสาวที่ถูกลักพาตัวไปบางคนในช่วงไม่กี่เดือนมานี้ ทำให้รู้สึกเหมือนว่า ตำรวจกำลังเผชิญกับฆาตกรต่อเนื่องทำสะสมลักพาตัวสาวๆ ไปเก็บเป็นฮาเร็มส่วนตัว

ฆาตกรส่งข้อความถึงตำรวจ และเรียกตัวเองว่า "คาสสาโนวา"

หนึ่งในเหยื่อที่ฆาตกรสตอร์คเกอร์ตามติด และหมายหัวจะลักพาตัวคือ ดร.เคต เป็นแพทย์ฝึกหัด -- เธอถูกลักพาตัวในที่สุด ถูกทรมาน แต่แข็งแกร่งจนหนีออกมาได้ในสภาพยับเยิน แต่ก็สู้จนกลับมาแข็งแรงอีกครั้ง และร่วมกับ ดร.ครอส ช่วยกันหาตัวคนร้าย

ในขณะที่อีกด้านหนึ่งของประเทศ ที่นอร์ธแคโรไลนา ก็มีฆาตกรต่อเนื่องโรคจิตกำลังอาละวาด มันฆ่าทรมานเด็กผู้หญิง และทิ้งศพไว้ โดยตัดอวัยวะบางส่วนของเหยื่อออกไปเพื่อเก็บเป็นที่ระลึก ฆาตกรรายนี้ส่งจดหมายบรรยายการกระทำของมัน และบังคับให้หนังสือพิมพ์ลงจดหมายที่มันเขียน โดยขู่ว่าไม่อย่างนั้นจะมีเหยื่อรายต่อไป มันเรียกตัวมันเองว่า "เจนเติ้ลแมนคอลเลอร์"

ที่ลุ้นคือ ดร.ครอส จะไขปริศนาได้อย่างไรว่า ฆาตกรทั้งคู่เชื่อมโยงกันได้อย่างไร มันกลายมาเป็นคู่หูกันได้อย่างไร และใครคือฆาตกรทั้งสองรายนี้ -- ใบ้ว่า จากคำให้การของ ดร.เคต เธอคิดว่า ฆาตกรที่จับเธอไปนั้น ร่างกายแข็งแรงมาก แข็งแกร่งกว่าเธอที่ได้คาราเต้สายดำเสียอีก และดูเหมือนจะมีความรู้ทางการแพทย์ เพราะเธอโดนฉีดยาหลายขนาน ทำให้เห็นภาพหลอน ทำให้อ่อนแอ ซึ่งยาพวกนี้ คนฉีดจะต้องมีความรู้ทางการแพทย์จึงจะสามารถฉีดให้ในปริมาณที่เหมาะสมได้ ไม่งั้นจะเป็นการฆ่าเหยื่อไปเสีย



Saturday, October 28, 2023

ฆาตกรบ้านพักคนตาย

 


หนังสือชื่อ  :  ฆาตกรบ้านพักคนตาย

ผู้เขียน  :  อิมามุระ มาชาฮิโระ

ผู้แปล  :  Kantie JK Takahashi

สำนักพิมพ์  :  ไดฟุกุ ครีเอเตอร์


เป็นนิยายที่ให้อารมณ์เหมือนอ่านโคนันฉบับนิยายค่ะ เป็นนิยายสืบสวนแฟนตาซี เรื่องเกี่ยวกับซอมบี้ + ฆาตกรรมในห้องปิดตาย

เรื่องเล่าในมุมของ ฮามุระ ยูซุรุ ที่เป็นสมาชิกชมรมคนรักเรื่องลึกลับ ที่ได้ตามลูกพี่ และเคนซากิ ฮิรุโกะ ไปเข้าค่ายพักร้อนร่วมกับสมาชิกในชมรมวิจัยภาพยนตร์ 

เบ็ดเสร็จคือมีนักศึกษามาร่วมค่ายพักร้อนครั้งนี้สิบคน มีรุ่นพี่สามคน (หนึ่งในรุ่นพี่เป็นเจ้าของบ้านพักต่างอากาศแห่งนี้) และก็มีคุณคันโนะ ที่เป็นคนดูแลสถานที่อีกคน รวมตัวละครทั้งหมด 14 คนค่ะ

ทั้งหมดพักอยู่ในบ้านพักตากอากาศติดทะเลสาบ ไม่ไกลจากที่พัก มีการจัดงานคอนเสิร์ตขนาดใหญ่ และก็เกิดเหตุขึ้น มีคนเอาเชื้อซอมบี้มาปล่อย ทำให้ทุกคนในงานคอนเสิร์ตกลายเป็นซอมบี้ อาละวาดไปทั่ว 

ซีนแรกคือ ทุกคนต้องหนีซอมบี้ ก็ตายไปส่วนหนึ่ง -- เหลือรอดมาสิบคน 

ทุกคนจึงต้องขังตัวอยู่แต่ในบ้านพักบนชั้นสองและชั้นสาม ในขณะที่ชั้นหนึ่งมีฝูงซอมบี้เฝ้าอยู่ -- อินเตอรเ์น็ตโดนตัด โทรศัพท์ก็ใช้ไม่ได้ไม่มีสัญญาณ แม้กระทั่งโทรศัพท์บ้านก็โดนตัด ทำให้ทุกคนในบ้านไม่สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือจากภายนอกได้ แต่น้ำประปา ไฟฟ้ายังคงใช้ได้ตามปกติ คนในบ้านยังสามารถรับรู้ข่าวสารโลกภายนอกได้จากทางโทรทัศน์ 

ขณะที่กำลังระทึกขวัญกับการเอาตัวให้รอดจากฝูงซอมบี้อยู่นั้น ก็เกิดการฆาตกรรมขึ้น เห็นได้ชัดว่า ฆาตกรคือใครสักคนในบ้านหลังนั้น 

ฮามุระ กับเคนซากิ ก็เลยต้องช่วยกันสืบสวนหาคนร้าย ซึ่งดูเหมือนเรื่องนี้จะเกี่ยวข้องกับจดหมายขู่ และเหตุการณ์เลวร้ายบางอย่างที่เคยเกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้ว 

---

คืออยากจะบ่นว่า ตัวละครเยอะเกินไป แถมเป็นชื่อภาษาญี่ปุ่นด้วย จำยาก คนญี่ปุ่นก็สุภาพ บางครั้งก็เรียกด้วยชื่อ บางครั้งก็เรียกด้วยนามสกุล ทำให้สับสนว่าคือใคร 

เนื่องด้วยตัวละครเยอะจัด ทำให้ยากที่จะคุมให้ทุกคนมีบทบาทเท่ากันในซีนๆ หนึ่ง เช่น ตอนที่ทั้งคณะยกกองกันไปถ่ายทำภาพยนตร์สั้นในตึกร้าง นางเอก-เคนซากิ ฮิรุโกะก็ไปกับเขาด้วย แต่ในบทนั้นไม่กล่าวถึงเธอเลย ไม่เล่าด้วยว่าเธอทำหน้าที่ช่วยอะไรในกอง หรือแม้กระทั่งตอนที่พระเอกเถียงกันกับสมาชิกในกลุ่มเรื่องบันทึกที่เจอในตึกร้าง นางเอกก็หายไปจากฉากโดยสมบูรณ์ ไม่มีเขียนถึงเลย 

แรงจูงใจในการฆาตกรรมก็บิดเบี้ยวเกินไป คือแก้แค้นในรุ่นพี่ ...แต่คือรุ่นพี่ไง ถึงรักผูกพันก็เถอะ แต่ก็เป็นแค่รุ่นพี่นะ แก้แค้นถึงขั้นฆาตกรรมต่อเนื่อง มันดูจะสุดโด่งเกินไป ส่วนตัวแล้วมองว่าแรงจูงใจไม่เข้มพอ ที่มาของนางเอกเคนซากิ ฮิรุโกะก็คลุมเครือ รู้แค่ว่าเป็นลูกคนรวย แต่มีความซวยแบบโคนัน คือชะตาดึงดูดเหตุฆาตกรรม ไปไหนก็ต้องมีใครตาย แต่หนังสือไม่ได้อธิบายว่าทำไมจึงเป็นแบบนั้น บุคลิกของนางเอกก็ไม่โดดเด่นชัดเจน 

สรุปคืออ่านได้สนุกๆ ค่ะ อารมณ์เหมือนอ่านโคนันภาคนิยายน่ะค่ะ

Friday, October 27, 2023

กาลิเลโอไขคดีสืบวิญญาณ

 


หนังสือชื่อ  :  กาลิเลโอไขคดีสืบวิญญาณ

ผู้แต่ง  :  ฮิงาชิโนะ เคโงะ

ผู้แปล  :  วงศ์สิริ สังขวาสี มิยาจิ

สำนักพิมพ์  :  ไดฟุกุ-ครีเอเตอร์


สนุกค่ะ เป็นเรื่องสั้น ในเล่มมีทั้งหมด 5 เรื่องด้วยกัน เป็นการสืบหาความจริงของอาจารย์ยุกาว่า มานาบุ (หรือฉายากาลิเลโอ) กับเพื่อนคุณตำรวจคุซานางิ ชุนเป ที่หาคดีมาให้อาจารย์กาลิเลโอของเราต้องไขปริศนา ในเล่มนี้จะเป็นคดีที่ดูเผินเหมือนมีเรื่องลึกลับ มีผีเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่เมื่อนักฟิสิกส์อย่างกาลิเลโอเข้าร่วมไขปริศนา ทุกอย่างก็มีคำอธิบายที่เชื่อถือได้

คดีที่ 1 - ฝันเห็น

เรื่องเริ่มจากตำรวจจับสตอล์คเกอร์ที่บุกรุกเข้าห้องนอนของเด็กผู้หญิงอายุ 17 ปีได้ ที่เหลือเชื่อคือสตอล์คเกอร์คนนั้นเชื่อว่าเด็กผู้หญิงคนนี้ ชื่อนี้ นามสกุลนี้ เป็นเนื้อคู่ของเขา และเขาพูดและเขียนเรื่องนี้มาตลอดมากกว่า 18 ปี คือแบบก่อนที่เด็กผู้หญิงคนนี้จะเกิดเสียอีกค่ะ -- ชื่อและนามสกุลของเด็กผู้หญิงไม่ใช่ชื่อโหล่ๆ นะคะ คือเรียกว่าไม่มีคนญี่ปุ่นตั้งชื่อแบบนี้ซ้ำแน่ๆ ...ดังนั้นปริศนาคือ เจ้าสตอล์คเกอร์โรคจิตนี้รู้จักชื่อน้องผู้หญิงคนนี้ได้อย่างไร ก่อนที่เธอจะเกิดเสียอีก โดยที่เขาไม่รู้จักพ่อ-แม่ของเด็กผู้หญิงคนนี้เลย

คดีที่ 2 - เห็นวิญญาณ

เป็นเรื่องของชายคนหนึ่งเห็นแฟนตัวเองมาปรากฎที่บ้าน ทั้งที่จริงๆ แล้วเธอถูกพบเสียชีวิตในห้องของตนเอง -- ดูเผินๆ เหมือนวิญญาณมาหาเนอะ แต่จริงๆ แล้วมีความซับซ้อนกว่านั้นค่ะ

คดีที่ 3 - เฮี้ยน

คุณตำรวจคุซานางิ ชุนเปได้รับการขอร้องจากภรรยาให้ช่วยตามหาสามีที่หายไปค่ะ เธอคาดว่าสามีจะแวะไปเยี่ยมคุณป้าที่เคารพนับถือกัน แต่พอจะไปถามคุณป้า ก็พบว่าคุณป้าเสียชีวิตไปแล้ว และบ้านนั้นก็มีคนที่อ้างว่าเป็นหลานคุณป้า กับเพื่อนมาอาศัยอยู่แทน ซึ่งถามอะไรก็ไม่รู้ไม่เห็น แถมพวกเขายังทำตัวแปลกๆ น่าสงสัยอีกด้วย -- ทำให้ภรรยาที่ร้อนใจปักใจเชื่อว่าสามีของตนเองจะถูกขังอยู่ในบ้านหลังนั้นค่ะ 

คดีที่ 4 - รัดคอ

เจ้าของโรงงานที่กำลังประสบวิกฤติเศรษฐกิจบอกกับเพื่อนร่วมงานและภรรยาว่า มีนัดรับเงินจากคนรู้จักที่จะเอาเงินมาใช้หนี้ ... แต่กลับพบเป็นศพ ถูกฆ่ารัดคอ ...ดูเหมือนถูกฆาตกรรมค่ะ แต่กลายเป็นมีเงื่อนงำบางอย่างที่แปลก ลูกผู้ตายมีลางสังหรณ์แปลกๆ และบอกตำรวจว่าเห็นพ่อกับลูกไฟในคืนก่อนเสียชีวิต รวมถึงมูลเหตุที่ก่อนตาย ผู้ตายได้ทำพินัยกรรมไว้เป็นมูลค่ามหาศาลอีก ทำให้ตำรวจต้องทำคดีนี้อย่างรอบคอบ

คดีที่ 5 - หยั่งรู้

ส่วนตัว เราชอบคดีนี้ที่สุดในเล่มค่ะ -- เมื่อชายคนหนึ่งมีชู้ และชู้พยายามกดดันให้เลิกกับเมียและมาหาเธอ โดยขู่ว่าเธอจะฆ่าตัวตายให้ดูต่อหน้า ... ซึ่งเธอก็ทำจริง และก็ตายจริงด้วย ที่น่าแปลกใจคือ สามวันก่อนหน้าวันตายของเธอ เด็กหญิงเพื่อนบ้านได้เห็นเธอผูกคอและเล่าให้แม่ฟัง ... ความจริงคืออะไร เด็กหญิงมีญาณหยั่งรู้ หรือว่านี่ไม่ใช่การฆ่าตัวตายแต่เป็นเพียงการขู่ แต่พลาด แล้วพลาดได้อย่างไร



Monday, October 23, 2023

เริ่มให้ได้ แล้วมันจะง่ายกว่าที่คิด

 


หนังสือชื่อ  :  เริ่มให้ได้แล้วมันจะง่ายกว่าที่คิด

ผู้แต่ง  :  โทโยคาซึ สึรุตะ

ผู้แปล  :  ณิชยา รักเกียรติงาม

สำนักพิมพ์  :  อมรินทร์ฮาวทู อมรินทร์พริ้นติ้ง แอนด์ พับลิชชิ่ง


ซื้อมาดองไว้หลายเดือนเลยค่ะ กว่าจะได้ "เริ่ม" หยิบมาอ่าน แต่อ่านแล้วดีค่ะ มีหลายครั้งหลายหัวข้อที่อ่านไปก็เผลอพยักหน้าเห็นด้วยกับผู้เขียน

เป็นหนังสือ How-to เหมาะสำหรับคนที่มีไอเดียหลายอย่างบรรเจิดมากมาย แต่ไม่มีอันไหนได้ลงมือทำเป็นจริงเป็นจังสักที ดีแต่คิด แต่ไม่ได้ทำ ... ในหนังสือบอกว่า ที่เป็นเช่นนั้นเพราะเรา "คิดว่ามันยุ่งยาก"​ ค่ะ พอคิดว่ามันยุ่งยาก หลายเรื่อง ก็เลยพลอยไม่อยากเริ่ม ไม่อยากหางานเพิ่มให้ตัวเองน่ะค่ะ 

ในหนังสือบอกว่า คนเราคิดเยอะเกินไปค่ะ ว่ากันว่าแต่ละวันคนเรามีเรื่องต่างๆ ให้คิดถึงตั้งหลายหมื่นเรื่องต่อวัน (ประเภทคิดเรื่อยๆ คิดโน่นคิดนี่น่ะค่ะ) และส่วนใหญ่ที่คิดก็เป็นความคิดซ้ำๆ เดิมๆ ที่เคยคิดแบบนั้นมาก่อนหน้านี้ (เช่น วันนี้จะกินอะไรดี ไปไหนดี ออกกำลังกายดีไหม ฯลฯ) และส่วนใหญ่ก็เป็นความคิดในเชิงลบด้วยค่ะ แทบทั้งหมดเป็นความคิดในความกังวลต่ออนาคต หรือไม่ก็ความเจ็บปวดในอดีต ...​ดังนั้นเนี่ย ถ้าอยากเริ่มทำอะไรสักอย่างขึ้นมา ก็ "อย่าคิดเยอะ" ค่ะ ไม่ต้องคิดว่ามันจะออกมาดีไหม (ถ้ายังไม่เริ่มทำ) หรือคิดว่าต้องวางแผนดีๆ ต้องทำให้ออกมาสวยตั้งแต่แรกเลย ... ไม่ต้องคิดเลยค่ะ ลุยไปก่อน อย่างอื่นเดี๋ยวจะตามมาเอง

หนังสือบอกว่า ถ้าเรามีไอเดียที่เกิดจากแรงขับเคลื่อนที่เป็นความหลงใหลของเรา หรือเป็น passion ของเรา เราจะเริ่มมันง่ายมากขึ้น คือเพราะเราชอบ เราหลงใหลในสิ่งนั้น ดังนั้นเราจะกระโจนทำมันอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ดังนั้นถ้าเราหา passion ของเราเจอ การเริ่มต้นทำในสิ่งที่เราหลงใหลก็ไม่ใช่เรื่องยากเลยค่ะ

หนังสือเขียนถึงการพยายามปรับตัวอยู่ร่วมกับคนที่เราไม่ชอบ เพราะบางครั้งเราไม่อยากเริ่มทำอะไร ก็เพราะคิดว่า การติดต่อกับผู้คน (หรือกับคนบางคน) เป็นเรื่องยุ่งยาก 

บางครั้งเรารู้สึกไม่มีความสุข หรือไม่พร้อมที่จะเริ่มทำสิ่งใดๆ ก็เพราะเรามัวแต่ตำหนิตัวเองอยู่ค่ะ บางคนเคร่งครัดกับตัวเองมากเกินไป จนไม่อยากเริ่มทำอะไร เพราะถ้าทำผิดพลาดขึ้นมาก็จะโทษตัวเอง รู้สึกแย่กับตัวเอง ดังนั้นจึงไม่กล้าเริ่มทำอะไร ...ทางแก้คือ ปล่อยวางเลยบ้าง รักตัวเองบ้าง ยอมรับข้อเสียของตัวเอง และปฏิบัติกับตัวเองเหมือนเป็นคนสำคัญ ซึ่งหลายคนมักละเลยตรงนี้ไปค่ะ 


Tuesday, October 17, 2023

How To Kill Your Family

 


หนังสือชื่อ  :  How to kill your family

ผู้เขียน  :  Bella Mackie

สำนักพิมพ์  :  The Borough Press


ตอนแรกดูจากชื่อหนังสือ ก็นึกว่าเป็นคำอุปมาอุปมัยค่ะ แต่พออ่าน พล็อตเรื่องมันคือตรงๆ เลยค่ะ จะฆ่าคนในครอบครัวอย่างไร จริงๆ

ตัวเอกของเรื่องคือ Grace อายุ 28 ปี หนังสือเล่มนี้เขียนบรรยายความคิด ความทรงจำของ Grace ค่ะ หนังสือเริ่มด้วยสถานการณ์ปัจจุบันที่ Grace กำลังติดคุกในข้อหาฆาตกรรม ซึ่งที่นางเอกของเราเจ็บใจก็เพราะเป็นการฆาตกรรมที่เธอไม่ได้ก่อ แต่ฆาตกรรมที่เธอก่อนั้น เธอรอดมาได้ทุกครั้ง ...จากนั้นเธอก็แอบเขียนบันทึกความทรงจำสิ่งที่เธอเคยทำก่อนจะมาติดคุก ณ ตอนนี้ ดังนั้นในหนังสือจึงจะบรรยายภาคปัจจุบัน ชีวิตประจำวันที่เธออยู่ในคุก กับเหตุการณ์ในอดีตตอนที่เธอวางแผนฆาตกรรมสมาชิกในครอบครัวค่ะ

Grace เป็นผู้หญิงที่มีความมุ่งมั่นค่ะ โตมากับแม่ที่สวยแต่อ่อนแอ แม่ทำงานหนักเพื่อเลี้ยงดูเธอ และเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งเมื่อเธออายุแค่ 12 ปี ส่วนพ่อนั้น Grace ไม่เคยเจอ และมารู้ภายหลังว่าพ่อคือผู้ชายแก่รวย (มากๆ) แต่เลว ที่หลอกสาวสวยๆ ไร้เดียงสาขึ้นเตียงด้วย แล้วพอผู้หญิงท้อง ก็ทิ้งไม่รับผิดชอบ ไม่รู้ไม่เห็น ไม่ส่งเสียอะไรสักอย่าง เพราะพ่อมีเมียและลูกตามกฎหมายอยู่แล้วน่ะค่ะ ครอบครัวของพ่อก็รู้ แต่ทุกคนเฉยเมย ห่วงหน้าตาชื่อเสียงตัวเอง และทำไม่รู้ไม่เห็น ไม่แม้แต่จะช่วยเหลือเมื่อตอนที่แม่ของ Grace เป็นมะเร็งและเสียชีวิต ทิ้งให้ Grace เป็นเด็กกำพร้า

ในหนังสือ Grace เล่าวิธีการ "กำจัด" สมาชิกในครอบครัวทีละคนๆ (อย่างฉลาด และสร้างสรรค์)

จะอ่านและรู้สึกสะใจถ้าเรา "อิน" กับความรู้สึกไม่ยุติธรรมที่ Grace ได้รับ แต่ถ้าไม่อิน เราจะอ่านไม่สนุกค่ะ หนังสือเล่มนี้ไม่เหมาะกับคนที่มีค่านิยมเรื่องความกตัญญูแบบสุดโต่งค่ะ -- แต่สำหรับคนที่รู้สึกว่าตัวเองไม่ได้รับความเป็นธรรมจากผู้ใหญ่ในครอบครัว หนังสือเล่มนี้เหมาะจะอ่านเพื่อระบายความสะใจค่ะ (สารภาพในใจเลย เวลาที่รู้สึกอึดอัดจากสิ่งที่ผู้ใหญ่ในครอบครัวกระทำ วูบหนึ่งของใจบาปๆ คิดด้วยซ้ำว่า ถ้าไม่มีเขา ชีวิตเราคงจะดีกว่านี้) 

พล็อตเรื่องสนุก และหักมุมไปมา เขียนในแนวตลกร้าย เสียดสี ประชดประชันน่ะค่ะ ดังนั้นอ่านด้วยความบันเทิงค่ะ เป็นนิยายตลกร้ายแบบอังกฤษค่ะ ไม่ใช่นิยายฆาตกรรมสืบสวนหนักๆ ถึงแม้ว่าตัวเอกในเรื่องฆาตกรรมคนในครอบครัวตัวเองก็เถอะ

Sunday, October 8, 2023

แปดขุนเขา

 


หนังสือชื่อ  :  แปดขุนเขา

ผู้แต่ง  :  Paolo Cognetti

ผู้แปล :  นันธวรรณ์ ชาญประเสริฐ

สำนักพิมพ์  :  อ่านอิตาลี


เคยอ่านหนังสือเล่มไหนที่ถึงแม้จะอ่านจบไปแล้ว แต่จิตใจยังมูฟออนไปจากเรื่องราวในหนังสือเล่มนั้นไม่ได้ไหมคะ.... สำหรับเราแล้ว "แปดขุนเขา" คือหนังสือเล่มนั้นค่ะ

ถ้าพูดถึงเนื้อเรื่อง แปดขุนเขาเป็นเรื่องความผูกพันธ์ของเพื่อนสองคนที่รู้จักกันมาทั้งชีวิต คือเป็นเรื่องธรรมดาทั่วๆ ไป เป็นชีวิตปกติของคนธรรมดาจริงๆ เนื้อหาเป็นลักษณะของการบรรยาย ดังนั้นตัวอักษรจึงติดกันเป็นพืด ไม่ค่อยมีบทสนทนาของตัวละครค่ะ เพราะเขียนเล่าจากความทรงจำของตัวเอกของเรื่อง .... แต่เพราะความธรรมดานี้เองทำให้สัมผัสถึงเนื้อเรื่อง ทำให้รู้สึกเชื่อมโยงเนื้อเรื่องในหนังสือเข้ากับชีวิตส่วนตัวของเราคนอ่าน

ตัวเอกของเรื่อง ผู้ถ่ายทอดความคิดคือ "ปิเอโตร" เขาเล่าถึงความทรงจำที่เขามีต่อพ่อและแม่ เขาเติบโตมาในครอบครัวที่รักการปีนเขา แต่แต่ละคนก็มีระดับความสูงที่ตนเองพอใจ ระดับความสูงที่แม่รู้สึกสบายใจที่จะปีนอยู่ที่ระดับหนึ่งพันฟุต ตรงนั้นมีทุ่งหญ้า มีลำธาร ต้นไม้ แม่ชอบที่จะนั่งปิกนิค อ่านหนังสือ ...ในขณะที่พ่อกลับตรงกันข้าม พ่อเป็นพวกวิ่งตามความฝัน มีเป้าหมาย และวิ่งให้เร็วที่สุดเพื่อให้ถึงจุดหมาย โดยไม่สนใจใยดีดอกไม้ข้างทาง พ่อมักจะปีนเขาให้ถึงจุดยอดในเวลาที่เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เมื่อถึงยอดเขา แทนที่พ่อจะดีใจ พ่อกลับเบื่อ และกลับบ้าน รอคอยวันที่จะปีนยอดเขาใหม่อีกครั้ง

แม่กับพ่อของปิเอโตรเช่าบ้านที่หมู่บ้านกรานาในทุกหน้าร้อน พ่อกับปิเอโตรก็ปีนเขาไป ส่วนแม่ก็ชิลกับชีวิต กับธรรมชาติ

ที่หมู่บ้านกรานา ปิเอโตรได้เป็นเพื่อนกับ "บรูโน" บรูโนเป็นเด็กเลี้ยงวัว อาศัยอยู่กับแม่ ลุง และป้า แม่ของปิเอโตรเป็นผู้หญิงใจดี เป็นนักสังคมสงเคราะห์ เธอช่วยพูดให้บรูโนได้เรียนต่อแบบเรียนทางไกล ...สำหรับบรูโนแล้ว พ่อกับแม่ของปิเอโตรเหมือนพ่อและแม่ในฝันของเขา ส่วนปิเอโตรก็เป็นเหมือนทั้งเพื่อนและน้องชาย

ชีวิตดำเนินไปเรื่อยๆ ปิเอโตรทะเลาะกับพ่อ และปฏิเสธที่จะปีนเขา ไม่ชอบปีนเขา ชอบปีนหน้าผามากกว่า พ่อก็เลยต้องปีนเขาลำพัง 

ชีวิตดำเนินไปเรื่อยๆ ปิเอโตรท่องโลกไปเรื่อยๆ ทำสารคดี ยังคงหมางเมินกับพ่อ ติดต่อกับครอบครัวด้วยวิธีเขียนจดหมายหาแม่...จนพ่อเสียชีวิต พินัยกรรมพ่อยกบ้านบนหน้าผาหลังหนึ่งที่หมู่บ้านกรานาให้แก่ปิเอโตร ซึ่งเรื่องนี้สร้างความประหลาดใจให้แก่เขามาก เพราะไม่รู้มาก่อนว่าพ่อแอบซื้อบ้านที่หมู่บ้านนั้น ...ด้วยความอยากรู้ เขาก็เลยกลับไปดูบ้าน

บรูโนตอนนี้ทำงานเป็นช่างก่อสร้าง และยังคงอยู่ที่หมู่บ้านกรานา ไม่ไปไหนเลย ...มิตรภาพแบบหลุดๆ หายๆ ของทั้งคู่ก็ต่อกันติดไม่ยาก ทั้งคู่ช่วยสร้างบ้านบนหน้าผา...ดูเหมือนบรูโนจะใกล้ชิดกับพ่อของปิเอโตรมากกว่าลูกชายแท้ๆ เพราะทั้งคู่ปีนเขาด้วยกันเสมอๆ

แปดขุนเขาคือเรื่องเล่าที่ปิเอโตรได้ยินเมื่อตอนไปถ่ายทำสารคดีที่เนปาลค่ะ ชายลูกหาบชาวธิเบตเล่าให้ฟังว่า มีแปดขุนเขา และแปดมหาสมุทรล้อมรอบเขาพระสุเมรุที่เป็นเขาที่สูงที่สุด และมีคนอยู่สองประเภท ประเภทหนึ่งท่องไปทั่วทั้งแปดขุนเขา ในขณะที่อีกประเภท มุ่งมั่นแต่ที่จะพิชิตยอดเขาที่สูงที่สุดคือเขาพระสุเมรุเท่านั้น คำถามคือใครได้เรียนรู้มากกว่ากัน ระหว่างคนที่ท่องไปทั่วแปดขุนเขา หรือคนที่พิชิตเขาพระสุเมรุ

ถ้าเปรียบไปแล้ว ชีวิตบรูโนก็เหมือนคนที่อยู่บนเขาพระสุเมรุ เขาไม่เคยไปไหนนอกจากกรานาเลย ในขณะที่ชีวิตของปิเอโตรคือคนที่ท่องไปทั้งแปดขุนเขา 

ชีวิตดำเนินไปเรื่อยๆ ไม่ได้สวยหรู สำหรับบรูโน มีช่วงที่งดงามคือเขาพบรัก กู้เงินมาทำฟาร์มเลี้ยงวัว มีลูกสาว ....แต่จากนั้นฤดูหนาวก็เข้ามา ฟาร์มกิจการไม่ดี ภรรยาของบรูโนจากลงจากภูเขามางานทำในเมือง อีกอย่างลูกต้องเข้าโรงเรียน แต่บรูโนไม่ยอม ทั้งคู่เลยเลิกกัน ฟาร์มประกาศล้มละลาย บรูโนสูญเสียทุกอย่าง แต่ก็ไม่ยอมลงจากภูเขา และพักอยู่ที่บ้านบนหน้าผาหลังที่ทั้งบรูโนและปิเอโตรช่วยกันสร้าง

ส่วนปิเอโตรทำงานอาสาสมัครที่เนปาล เหมือนเขายึดภูเขาหิมาลัยเป็นบ้าน และยังไม่มีครอบครัว เหมือนชีวิตที่ไม่ต้องการผูกพันหรือมีพันธะกับอะไร...เมื่อได้ยินข่าวมรสุมชีวิตของบรูโน ก็กลับมาช่วยกล่อมบรูโน แต่ไม่สำเร็จ บรูโนยังคงยืนยันที่จะอยู่ที่บ้านหน้าผาบนภูเขาต่อไป

ต่อมาหิมะถล่ม บรูโนหายไป แม้กู้ภัยจะตามหาแต่ไม่เจอร่าง แต่ก็คาดว่าจะเสียชีวิต

....ในชีวิตคนเรา บางคนมีภูเขาที่เราไม่สามารถกลับไปได้อีก คนที่ท่องไปทั่วทั้งแปดขุนเขา เหมือนอย่างปิเอโตรหรือพ่อของปิเอโตร (หรือเราเอง) ก็คือคนที่สูญเสียเพื่อนบนภูเขาแห่งแรกที่สูงที่สุด เราจึงได้แต่ท่องไปบนแปดขุนเขา

Wednesday, October 4, 2023

Waiting

 


หนังสือชื่อ  :  Waiting

ผู้เขียน  :  Blake Pierce

สำนักพิมพ์  :  Blakepierceauthor.com


สนุกมากค่ะ อ่านเสียงานเสียการ ตอนแรกตั้งใจว่าจะค่อยๆ อ่าน อ่านวันละ 2-3 บท ทำไปทำมา ติดใจ วางไม่ลง อ่านจบภายใน 2-3 วันซะงั้น

จริงๆ เล่มนี้เป็นเล่มที่สอง ของซีรี่ย์นักจิตวิทยา Riley Sweency ค่ะ แต่ถึงเริ่มอ่านจากเล่มที่สองก็ไม่งงนะคะ แต่มีบางช่วงที่นางเอกคิดถึงความหลัง ก็จะสปอยด์เนื้อเรื่องในเล่มที่หนึ่ง ทำให้ถ้ากลับไปอ่านเล่มหนึ่งทีหลัง มันจะเสียอรรถรสน่ะค่ะ

Riley เป็นนักจิตวิทยาจบใหม่ค่ะ ในเล่มที่หนึ่งมีเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้นในมหาวิทยาลัยที่เธอเรียน ทำให้เธอฉายแสงความสามารถพิเศษในการ "รู้ใจ" ฆาตการต่อเนื่อง ให้แก่ตำรวจ FBI  Jake Crivaro ประทับใจ ดังนั้นพอเธอเรียนจบ Crivaro ก็ใช้เส้น ส่งเธอเขาอบรมเป็นนักศึกษาฝึกงานที่สำนักงานใหญ่ของ FBI ที่วอชิงตัน ดี.ซี.

ปัญหาคือ Crivaro ใช้เส้น และงัดข้อกับเพื่อนร่วมงานเพื่อให้เธอมีที่นั่งในชั้นเรียน FBI ใช้ซะจนเขาชักเริ่มไม่แน่ใจว่าเขาอวยเธอเกินจริงหรือไม่ ดังนั้นในเล่มนี้ Crivaro ก็จะอารมณ์ผีเข้าผีออกกับ Riley ค่ะ 

ก่อนเธอจะเริ่มอบรม ดันมีฆาตกรรมต่อเนื่องเกิดขึ้น ศพที่พบเป็นผู้หญิงถูกแต่งตัว แต่งหน้าด้วยชุดตัวตลก (Clown) Crivaro พา Riley ลงลุยที่ก่อเหตุ ในขณะที่นักศึกษาฝึกงานคนอื่นๆ นั่งเรียน Riley กลับต้องนั่งรถตำรวจตามไปดูที่เกิดเหตุ สอบสวนผู้ต้องสงสัย ฯลฯ

Riley ได้โชว์ความอัจฉริยะของเธอค่ะ ความสามารถในการ "รู้ใจ" ฆาตกร รู้ว่าฆาตกรเฝ้ามองเหยื่อจากตรงไหน เหยื่อถูกลักพาตัวไปเมื่อไร และมีเซ้นต์รู้ว่ากลอนที่ส่งตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์เป็นกลอนที่เขียนโดยฆาตกร

ในขณะที่ Riley ต้องพิสูจน์ตัวเองในการเป็นนักศึกษาฝึกงานของ FBI ชีวิตส่วนตัวของเธอก็กำลังเริ่มต้น เธอกำลังตั้งท้องอ่อนๆ (แต่ Riley ไม่บอกใคร ไม่มีใครรู้ยกเว้นพ่อของเด็ก) Ryan แฟนของเธอก็กำลังเริ่มงานใหม่เป็นทนาย และขอ Riley แต่งงาน ส่วน Riley พอมีเรื่องคดีเข้ามา ทำให้เธอไม่มีสมาธิกับเรื่องโรแมนติก 

หนังสือดำเนินเรื่องเร็ว ใช้ภาษาที่กระจ่าง อธิบายเห็นภาพตาม อ่านแล้วจินตนาการเหมือนกำลังดูซีรี่ย์นักสืบดีๆ เรื่องหนึ่งเลยค่ะ  เรื่องดราม่าส่วนตัวก็ไม่เยอะมาก มีพอให้รู้จัก Riley มากขึ้น ไม่ได้เยอะจนเนื้อเรื่องหลักเรื่องการสืบสวนหาคนร้ายเสียไป ...จะมีขัดใจก็ตรง ตามหาเบาะแสฆาตกรมาเกือบจบเล่ม พอบทจะรู้ว่าฆาตกรเป็นใคร ก็รู้ง่ายๆ เลย ซะงั้น

บันทึกชื่อ Blake Pierce ให้เป็นนักเขียนในดวงใจอีกคนเรียบร้อยค่ะ คิดว่าคงจะหาหนังสือของเขาเล่มต่อไปมาอ่านอีกแน่ๆ ค่ะ