หนังสือชื่อ : The Little Paris Patisserie
ผู้แต่ง : Julie Caplin
สำนักพิมพ์ : HarperCollins Publishers
Patisseries คือขนมหวานฝรั่งเศสค่ะ เช่น พวกเค้ก มาการอง แอแคลร์ ฯลฯ
หนังสือเล่มนี้เป็นนิยายโรแมนติก เบาๆ น่ารักๆ ค่ะ ถึงแม้พระเอกจะอารมณ์วัยทอง เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายไปบ้าง แต่นางเอกน่ารักค่ะ เลยยวนๆ
นางเอกในเรื่องชื่อ Nina เธอเป็นลูกคนสุดท้องในบรรดาพี่ชาย 4 คน แถมตอนเพิ่งเกิดก็อ่อนแอจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด ... ดังนั้นจึงไม่ต้องสงสัยเลยค่ะว่าเธอกลายเป็นเจ้าหญิงตัวน้อยๆ ในสายตาของทุกคนในครอบครัว คืออายุก็จะเกือบสามสิบแล้ว แต่พี่ๆ ยังเป็นห่วงเป็นใยเธอยังกับเธอเป็นเด็กๆ คือครอบครัวอบอุ่น จนชักจะรู้สึกร้อนแหละ
ส่วนพระเอกคือ Sebastian เป็นเพื่อนสนิทกับ Nick พี่ชายของนางเอกค่ะ ... คือนางเอกเราแอบชอบพระเอกมาตั้งแต่สมัยยังวัยรุ่นแหละ ใครๆ ก็ดูออก พี่ชายก็กีดกันอยู่กลายๆ ... นางเอกน่ะคิดว่าไม่มีใครรู้ แต่เนอะ ของแบบนี้ ซ่อนกันได้ที่ไหน
ในขณะที่บ้านของนางเอกอบอุ่น แต่บ้านของพระเอกไม่เลยค่ะ แม่ขี้โรค ป่วยเข้าโรงพยาบาลบ่อย ส่วนพ่อก็บ้างาน ไม่สนใจครอบครัว ดังนั้นตอนวัยรุ่น พระเอกจึงมาขลุกอยู่กับบ้านนางเอกแทน เข้าออกในครัว ทำกับข้าวแทนแม่นางเอก เพราะพระเอกชอบทำกับข้าว ... คือว่าง่ายๆ ว่าบ้านนางเอกคือบ้านพระเอกแหละ
หลังจากพระเอกเรียนจบ ก็ไม่กลับมาเยี่ยมบ้านเลยค่ะ ติดต่อกับ Nick สม่ำเสมอ แต่ไม่กลับมา ประสบความสำเร็จในงาน และกำลังจะเปิดร้านอาหารที่ปารีสอยู่ ... ส่วนนางเอกก็เปลี่ยนงานไปเรี่อย ล่าสุดถูกเลิกจ้างชั่วคราว เพราะร้านอาหารที่นางเอกทำอยู่นั้นจะปิดปรับปรุง นางเอกก็เลยว่างงาน
ประจวบเหมาะพอดีที่พระเอกขาหักทั้งสองข้างค่ะ แล้วคราวนี้เนี่ยดันมีคอร์สสอน Patisseries ที่พระเอกต้องสอนในช่วงระหว่างนั้น ยกเลิกก็ไม่ได้ด้วย ... นางเอกเลยเสนอตัว (โดยให้พี่ชายกดดัน) ให้พระเอกรับนางเอกเข้าเป็นผู้ช่วยชั่วคราว ... คือนางเอกอยากเรียนเป็นเชฟขนมหวานค่ะ ส่วนพระเอกไม่มีทางเลือก ตัวเองขาเดี้ยง ไม่สามารถเตรียมการสอนได้
นางเอกนิสัยน่ารักค่ะ เป็นคนที่ใครอยู่ด้วยก็สบายใจ เข้ากับคนง่าย นางเอกรู้ใจตัวเองดีว่ายังรักพระเอกอยู่ แต่ก็ไม่ได้คาดหวังอะไร คือรับเท่าที่ได้ ตัวนางเอกไม่ได้คิดว่าพระเอกชอบเธอค่ะ
ส่วนพระเอก ปากหมาค่ะ คือตอนแรกน่ะเข้าใจได้ว่าเจ็บขา เลยพูดอะไรแรงๆ กับนางเอกไป แต่คนอ่านเห็นสัญญาณว่าพระเอกก็แอบมีใจให้นางเอกมานานแล้วแหละ แต่ฟอร์ม
แต่เห็นเคมีที่ยังไม่เข้ากันหนึ่งอย่างคือ พระเอกยังรู้สึกดูถูกนางเอกอยู่ค่ะ คิดว่านางเอกเป็นพวกหยิบโย่ง ทำอะไรไม่จริงจัง ไม่สู้งาน เพราะถูกตามใจ คือไม่ว่านางเอกทำงานอะไร ถ้าเธอไม่ชอบ เธอก็กลับมาบ้าน ที่บ้านสนับสนุนเธอเสมอ เธอไม่เคยต้อง "สู้" เพื่อให้ได้มา ในขณะที่พระเอกต้องดิ้นรน ต้องสู้เพื่อให้พ่อยอมรับในการตัดสินใจเลือกเรียนเป็นเชฟ ไม่เลือกเรียนทางด้านธุรกิจอย่างที่พ่อต้องการ สู้เพื่อให้ได้รับการยอมรับซะจนหลงลืมแรงบันดาลใจที่ตัวเองเลือกเรียนที่จะเป็นเชฟตั้งแต่แรกไปค่ะ
คอร์สเรียนจัดสัปดาห์ละหนึ่งวันค่ะ ในร้าน Patisseries เก่า ที่อดีตเคยรุ่งเรือง แต่ตอนนี้ไม่ค่อยมีลูกค้าแล้ว ขนมก็ไม่ได้อบเองแล้ว สั่งสำเร็จรูปมาแทน และมีผู้จัดการร้านท่าทางเบื่อโลกอยู่หนึ่งคน
หนังสือเล่าถึงพัฒนาการความสัมพันธ์ของเพื่อนในชั้นเรียนคลาส Patisseries ค่ะ ที่ทั้งหมดมารู้จักกัน และกลายเป็นเพื่อนกัน และช่วยกันปรับปรุงร้าน (ร้านที่พระเอกยังคิดไม่ออกว่าจะเอาไว้ทำอะไร คือร้านนี้ซื้อแถมมากับอีกสองร้านที่พระเอกต้องการ) แอบกันปรับปรุงร้านโดยไม่บอกพระเอกที่เป็นเจ้าของด้วยนะ นางเอกมาร้านทุกวันค่ะ เพื่อมาฝึกซ้อมทำขนม ทำเสร็จ ขนมนั้น ผู้จัดการร้านก็เอามาขาย ขายดีด้วยนะ อย่าเป็นเล่นไป นางเองมีคิดสูตรใหม่ ผสมผสานระหว่างขนมหวานแบบฝรั่งเศสกับบิสกิตแบบอังกฤษ ...ขายดิบขายดีค่ะ มีลูกค้ามาต่อคิวซื้อ ขนมขายหมดทุกวัน ....แต่ทั้งหมดนี้พระเอกไม่รู้ค่ะ ยังติดกับภาพลักษณ์ว่านางเอกเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่ออยู่ ... ปมตรงนี้ถ้ายังไม่คลี่คลาย ทั้งคู่ก็คงครองรักด้วยกันอย่างเท่าเทียมกันยากค่ะ
คือนะ นางเอกน่ารักและเข้าใจพระเอกที่เป็นคนปากหมา และอยู่ด้วยยากค่ะ คือรู้จักพระเอกมาตั้งแต่เด็กๆ พระเอกเองถึงจะชอบนางเอกแต่ก็ไม่หาญจีบ เพราะกลัวเสียเพื่อนสนิทไปค่ะ พระเอกแคร์บ้านนางเอกมาก เพราะเปรียบเสมือนครอบครัวเดียวที่เขามีไงคะ
แต่ตอนจบ ตอนที่ทุกอย่างคลี่คลาย ... พระเอกก็หวานอยู่นะ คือพอไม่มีฟร์อมต้องเก๊ก ก็แบบรักนางเอกมากกกกๆ
No comments:
Post a Comment