Sunday, November 21, 2021

The Family Upstairs

 


หนังสือชื่อ  :  The Family Upstairs

ผู้แต่ง  :  Lisa Jewell

สำนักพิมพ์  :  Century 2019


อึดอัด หดหู่ เศร้า ลุ้น อยากรู้ ... นี่คือความรู้สึกเมื่ออ่านหนังสือเล่มนี้ค่ะ 

หนังสือแต่ละบทเล่าสลับกันไปมาระหว่าง Libby, Lucy และ Henry ค่ะ โดยเรื่องเล่าของ Henry จะเป็นเรื่องย้อนไปในอดีต 

Libby คือหญิงสาวอายุ 25 ที่เพิ่งได้รับมรดกเป็นแมนชั่นหลังใหญ่ในเมืองเชลซี เป็นมรดกที่พ่อแม่ของเธอทิ้งไว้ก่อนตาย พ่อแม่ของ Libby กินยาฆ่าตัวตายพร้อมกับชายปริศนาอีกคนหนึ่ง (รวมทั้งหมดเป็น 3 ศพ)ในขณะที่ตอนนั้น Libby อายุเพียง 10 เดือน ... ดูเหมือนพ่อแม่ของเธอจะเข้าลัทธิอะไรแปลกๆ สักอย่างหนึ่งน่ะค่ะ ทำให้พ่อแม่ของเธอปิดกั้นตัวเอง และไม่เข้าสังคมภายนอกเลย... และจากปากคำของเพื่อนบ้าน ดูเหมือน Libby น่าจะมีพี่ๆ อยู่ ไม่ใช่ลูกคนเดียว  แต่ในขณะที่เจ้าหน้าที่มาพบเธอนั้น ไม่มีใครอยู่บ้านเลยค่ะ ทิ้งไว้แค่เด็กทารก Libby ที่ได้รับการตั้งชื่อในตอนนั้นว่า Serenity ... ปริศนาคือ เจ้าหน้าที่พบเธอถูกทิ้งไว้ในเปล ได้รับการดูแลอย่างดี ในขณะศพของผู้ใหญ่ที่อยู่บนโต๊ะกินข้าวนั้น กำลังจะเน่า ตายมาหลายวันแล้ว ...ใครดูแลทารก Libby?

.

อีกบทก็เล่าเรื่องในมุมของ Lucy หญิงสาวที่กำลังถังแตก ไร้บ้าน มีลูกสองคน คือ Marco (อายุ 12 ปี) และ Stella (5 ขวบ) กับหมาอีกหนึ่งตัว... ในขณะที่ Lucy พยายามอย่างยิ่งที่จะเอาตัวให้รอดในสถานการณ์อันยากลำบากนี้ในเมืองนีซ ฝรั่งเศส วันหนึ่งเธอก็ไ้ด้รับข้อความเตือนในโทรศัพท์บอกว่า "เด็กทารกอายุ 25 แล้ว" ... ข้อความสั้นๆ แค่นี้ ทำให้ Lucy ดิ้นรนอย่างหนักที่จะกลับไปลอนดอนค่ะ เธอถึงขั้นกลับไปขอความช่วยเหลือจากอดีตสามี (พ่อของ Marco) ชายคนที่เธอขยะแขยงอย่างที่สุด คนที่ซ้อมเธอเกือบตาย จนเธอต้องหนีออกมา ... Lucy มีความสัมพันธ์อะไรกับ Libby? ทำไมจึงต้องกลับมาที่เชลซีให้ได้?

.

อีกบทก็เล่าในมุมของ Henry โดยเล่ารำลึกความหลังสมัยที่เขาอายุ 12 เริ่มตั้งแต่ปี 1980 Henry มาจากตระกูลร่ำรวย ปู่ของเขารวยมาก รวยเสียจนพ่อไม่ต้องทำงานอะไรเลย เรียนก็ไม่จบ เอาแต่เสเพล เที่ยวเล่นไปวันๆ และแม่ที่สวยมากๆ Henry มีน้องสาวหนึ่งคน อายุอ่อนกว่าเขา 1 ปี 

พอปู่ตาย พอก็ได้มรดกทั้งหมด (พ่อเป็นลูกคนเดียว) ในมุมของเด็กเขาไม่รู้หรอกว่า บ้านเขาเริ่มจนลงช้าๆ ... จนกระทั่งวันหนึ่ง แม่นำเพื่อนมาบ้าน ชื่อ Birdie แม่บอกว่า Birdie เป็นนักไวโอลิน และวงของเธอจะขอมายืมใช้บ้านเพื่อถ่ายทำมิวสิควิดีโอ ... และถึงแม้มิวสิควิดีโอจะถ่ายทำเสร็จแล้ว ออกอากาศไปแล้ว ...แต่ Birdie ก็ยังไม่ย้ายออกค่ะ

แขกในบ้านเริ่มจาก Birdie ต่อมาก็ Justin แฟนของเธอ ก็ย้ายมาอยู่ด้วยค่ะ อยู่กันที่ห้องชั้นบน ... ตอนที่พ่อของ Henry เริ่มป่วยเป็นโรคหัวใจ Birdie ก็แนะนำให้ทุกคนรู้จักกับ David Thomsen และครอบครัว (มีแม่ Sally และลูกอีกสองคนคือ Phin กับ Clemmercy) ... และหลังจากนั้น ครอบครัวของ Henry ก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

David หน้าตาดี คารมก็ดีค่ะ (จริงๆ แล้วเป็นพวกต้มตุ๋น เป็นพวกสิบแปดมงกุฏ) David เข้าครอบงำครอบครัวของ Henry ทีละน้อยๆ พ่อของ Henry อ่อนแอเกินกว่าจะทำอะไรได้ ในขณะที่แม่โดนล้างสมอง เห็นดีเห็นงามกับทุกสิ่งที่ David ทำ

จุดเปลี่ยนที่ทำให้ทุกอย่างเลวร้ายลงกว่าเดิม คือ ความลับที่ว่า David เป็นชู้กับ Birdie ถูกเปิดเผย ทำให้ Sally ภรรยาของ David ทนไม่ได้และขอแยกตัวออกจากบ้านไป ... เด็กๆ ลูกของพวกเขาอยากย้ายไปอยู่กับแม่นะคะ แต่คือแม่ก็ยังเอาตัวไม่รอดไง ก็เลยไม่สามารถพาลูกไปได้ ต้องปล่อยให้ Phinn และ Clemmercy อยู่กับพ่อและครอบครัว Henry ไปก่อน ... และอีกด้านหนึ่ง เมื่อความลับเปิดเผย ก็ไม่ต้องหลบซ่อนเป็นชู้กันอีกต่อไป Birdie เลยย้ายมานอนกับ David อย่างเปิดเผย ในขณะที่ผู้ใหญ่คนอื่นๆ (พ่อกับแม่ของ Henry) ก็ไม่มีใครว่าอะไร ทุกคนเชื่อฟัง

ดูเหมือน Birdie คือคนที่เปิดด้านปีศาจของ David ให้ชัดขึ้น ตอนนี้พวกเขาเริ่มมีความคิดประหลาดๆ เช่น เราไม่ควรมีสมบัติอะไรเลย ทุกคนต้องใส่เสื้อผ้าสีดำ ที่เย็บขึ้นมาเองเหมือนกัน ไม่ให้ใส่รองเท้า ไม่ให้ออกไปข้างนอก ไม่ให้ตัดผม ฯลฯ 

แม่กับน้องสาวของ Henry โดนล้างสมองอย่างสมบูรณ์ค่ะ ถึงขนาดที่ว่า แม่ตั้งครรภ์ (กับ David) แล้วยังเห็นว่าเป็นเรื่องดี!!! ส่วนพ่อก็ทำอะไรไม่ได้ สูญเสียการพูดไปแล้ว นั่งอยู่กับที่ทั้งวัน 

.

หลังจากนั้นก็มีเรื่องต่างๆ มากมายที่เพิ่มความกดดันให้แก่เด็กๆ ... อ่านแล้วให้นึกถึงฝูงสัตว์ที่จ่าฝูงต้องการเป็นผู้นำฝูง เซ็กส์กับสมาชิกหญิงในฝูงก็เป็นส่วนหนึ่งที่แสดงให้เห็นถึงอำนาจของผู้นำไงคะ  David ก็เหมือนคนที่ต้องการเป็นจ่าฝูง พยายามครอบงำ และบังคับทุกคน ... แต่ให้โลกข้างนอก David ก็แค่ไอ้ขี้แพ้คนหนึ่ง ดังนั้นเพื่อยังรักษาอำนาจของตัวเองในฝูงอยู่ ก็บังคับให้ทุกคนไม่ติดต่อกับโลกภายนอก ขังตัวเองไว้ข้างในบ้าน ... มันเป็นเรื่องของ family abuse ค่ะ ทั้งทางร่างกาย จิตใจ และการเงิน

.

ตอนที่ Libby เกิด ... เด็กๆ ในบ้าน เริ่มคิดที่จะเป็นอิสระ คิดที่จะหนีแล้วค่ะ พวกเขาแปลกใจว่า ทำไมไม่มีใคร ไม่มีผู้ใหญ่ข้างนอกนั้นสักคนเข้ามาช่วยพวกเขาเลย ... พวกเขาคิดแผนที่จะหนีขึ้น แต่แผนดันพลาด !!!  

และนั่นคือเหตุให้เด็กทารก Libby ถูกทิ้งไว้ และที่เหลือต้องหายสาบสูญไป ... จนกระทั่งถึงวันที่เด็กน้อยอายุครบ 25 ปีบริบูรณ์ พวกเขาจึงกลับมาพบกันอีกครั้งที่บ้านหลังนี้

.

คนเขียนเขียนเก่งมากค่ะ ในแง่ของการเล่นกับความอยากรู้ของคนอ่าน ทำให้เราวางไม่ลง เนื้อเรื่องดำเนินไปอย่างช้าๆ แต่ละปมคลายออกอย่างช้าๆ และค่อยๆ เครื่องร้อน เร็วขึ้นๆ ... แต่ก็มีอีกหลายอย่างที่ยังไม่เคลียร์ เพราะหนังสือเขียนเล่าในมุมของ Henry, Lucy และ Libby ทำให้เรารู้แค่ที่ทั้งสามคนรู้ ... แต่เราไม่รู้เรื่องอื่นในภาพรวม เช่น Justin ตอนนี้อยู่ที่ไหน? Finn รู้สึกอย่างไรกับ Henry? ความคิดของ Finn ต่อเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น ... คือในมุมของ Henry นั้น เขาคิดว่า Finn เป็นพวกคิดถึงแต่ตัวเองเท่านั้นแต่เราไม่รู้ว่าเป็นอย่างนั้นจริงไหม (Henry เป็นเกย์และชอบ Finn ตั้งแต่แรกพบ) 

หรือที่คาใจคือใครฆ่าพ่อแม่ของ Henry? ... เพราะ Henry วางแผนอย่างดีและรัดกุม และไม่ได้คิดจะฆ่าพ่อแม่ Henry เชื่อว่าพ่อแม่ของเขาโดนฆาตกรรมค่ะ 

แล้วตอนจบก็เป็นจบแบบปลายเปิด ... เอ..หรือคนแต่งอาจจะมีต่อเล่มสองก็เป็นได้ค่ะ

No comments:

Post a Comment