Saturday, October 29, 2022

Atomic Habits เพราะชีวิตดีได้กว่าที่เป็น

 


หนังสือชื่อ  :  Atomic Habits เพราะชีวิตดีได้กว่าที่เป็น

ผู้แต่ง  :  James Clear

ผู้แปล  :  ประพาฬรัตน์ ยงมานิตชัย

ผู้เรียบเรียง  :  กนิษฐ์ พรหมเสน

สำนักพิมพ์  :  ซีเอ็ดยูเคชั่น


เป็นหนังสือดังค่ะ ดังในต่างประเทศมากด้วย ซื้อฉบับแปลเพราะมีจัดลดราคา คิดเสร็จสรรพแล้ว ราคาหนังสือฉบับแปลเป็นไทยถูกกว่าราคาหนังสือต้นฉบับภาษาอังกฤษเสียอีกค่ะ

ส่วนตัวมีเพื่อนสนิทชาวจีนคนหนึ่งค่ะ เพื่อนคนนี้อ่านหนังสือ Atomic Habits แล้วได้รับแรงบันดาลใจจากการอ่าน นอกจากการนำสิ่งที่ได้อ่านมาปรับใช้ในชีวิตประจำวันแล้ว เธอจะคิดที่จะทำแอปพลิเคชั่นมาใช้เป็นการส่วนตัว เพื่อใช้ในการติดตามความคืบหน้าในการเปลี่ยนนิสัยของเธอด้วย ... และพอได้มาอ่านเอง ก็เห็นด้วยกับเพื่อนชาวจีนคนนั้นค่ะว่า นี่เป็นหนังสือที่สร้างแรงบันดาลใจให้ลุกขึ้นมาทำอะไรสักอย่างที่ดีจริงๆ 

หนังสือฉบับแปลภาษาไทยถือได้ว่าแปลดีเลยทีเดียวค่ะ เรียบเรียงประโยคได้ดี อ่านลื่นไหลดี ...​คำแนะนำสำหรับคนที่อ่านหนังสือเล่มนี้ในรูปแบบอีบุ๊กคือ ให้ดาวน์โหลดมาอ่านในรูปแบบไฟล์ pdf ค่ะ เพราะในรูปแบบ ePub นั้น มีการจัดหน้าที่งงๆ มาก การจัดหัวข้อย่อยในบทดูงงๆ ทำให้มองความสำคัญของลำดับเรื่องในภาพรวมไม่ออก แถมการเว้นวรรคระหว่างคำก็งงๆ รูปประโยคดูงงไปเลยเมื่อเว้นวรรคผิด ... ดังนั้นอ่านแบบ pdf ดีที่สุดค่ะ

ผู้เขียนบอกว่า การเปลี่ยนนิสัย การสร้างพฤติกรรมที่ดี ที่เราอยากเป็นนั้นประสบความสำเร็จได้ ถ้าเราทำตามกฎ 4 ข้อ คือ

กฎข้อที่ 1. ทำให้เห็นชัดเจน เช่น การทำบันทึกประจำวันเพื่อติดตามนิสัยที่ต้องการจะเปลี่ยน หรือการเขียนให้เป็นรูปธรรมว่าต้องการจะเปลี่ยนนิสัยใด

กฎข้อที่ 2. ทำให้น่าดึงดูดใจ เช่น จับคู่กระทำที่อยากทำหรือที่ชอบทำ กับการกระทำที่จะเปลี่ยนนิสัย เพื่อสร้างสิ่งล่อใจหรือให้รางวัลเล็กๆ 

กฎข้อที่ 3. ทำให้เป็นเรื่องง่าย เช่น การสร้างสิ่งแวดล้อมให้เหมาะกับการเปลี่ยนนิสัย การเปลี่ยนนิสัยแต่น้อย แค่วันละ 2 นาที แต่ทำทุกวันๆ จนติดกลายเป็นกิจวัตร เป็นต้น

กฎข้อที่ 4. ทำให้น่าพึงพอใจ เช่น การติดตามผลที่เห็นได้ วัดประเมินได้ มันจะทำให้เรารู้สึกพึงพอใจในความก้าวหน้าของตัวเองค่ะ 

ในทางตรงกันข้าม ผู้เขียนก็ได้บอกถึงกฎการเลิกพฤติกรรม หรือนิสัยที่ไม่ดี ที่เราต้องการเลิกด้วย โดยใช้กฎผกผันของกฎ 4 ข้อที่กล่าวไปแล้ว ได้แก่

กฎผกผันข้อที่ 1. ทำให้มองไม่เห็น เช่น อยากเลิกนิสัยเล่นเฟสบุ๊ก ก็บล็อกไปเลย คือถ้าเราไม่เห็นมัน แล้วเรายุ่งกับเรื่องอื่น เราก็จะลืมมันไป

กฎผกผันข้อที่ 2. ทำให้ไม่น่าดึงดูดใจ ปรับทัศนคติใหม่ เน้นให้เห็นประโยชน์จากการเลิกนิสัยนี้

กฎผกผันข้อที่ 3. ทำให้เป็นเรื่องยาก เช่น ในหนังสือยกตัวอย่างคนที่อยากเลิกนิสัยกัดเล็บเวลาเครียดๆ ก็ทำให้เป็นเรื่องยากโดยการไปทำเล็บให้สวยๆ ดังนั้นเวลาเครียดอยากกัดเล็บอีก มองเห็นเล็บสวยๆ ก็ไม่อยากกัดเล็บอีก สติก็มาเมื่อมองเห็นเล็บที่ทำไว้สวยแล้ว

กฎผกผันข้อที่ 4. ทำให้ไม่น่าพึงพอใจ อันนี้อาจต้องขอให้คนรอบข้างช่วยในการเลิกนิสัยนี้

-

จริงๆ แล้ว การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เป็นคำที่กว้างมากค่ะ (ไม่เหมือนการปรับเปลี่ยนเฉพาะเจาะจง เช่น การเลิกบุหรี่ การออกกำลังกาย ฯลฯ) ... พอเขียนเป็นหนังสือเกี่ยวกับการปรับพฤติกรรม มันจึงเต็มไปด้วยการอุปมาอุปมัย การยกตัวอย่างไปมา ในเรื่องที่ไม่ต่อเนื่องกัน ... แต่หนังสือเล่มนี้ทำได้ดีทีเดียว ในแง่ที่ทำให้คนอ่านเห็นด้วย โดยเทียบกับประสบการณ์ที่ผ่านมาในการพยายามเลิกนิสัยบางอย่าง หรือพยายามสร้างนิสัยดีๆ บางอย่าง แต่ล้มเหลวมาก่อน 

นอกจากนี้ หนังสือยังเขียนถึงความพยายามในการรักษานิสัยที่ดีไว้ให้คงอยู่ การรักษาความกระตือรือร้นไว้ตลอดไป เพราะถ้าเราเปลี่ยนนิสัยได้จนถึงจุดหนึ่ง เราจะเริ่มเบื่อ และแสวงหาความท้าทายใหม่ 

และบทที่ดีที่สุดในหนังสือเล่มนี้ คือ ภาคผนวกค่ะ (อ่านแล้วให้ความรู้สึกเหมือนอ่านแนวคิดเรื่องการบำบัดทุกข์ในทางพุทธศาสนา แต่เขียนในเวอร์ชั่นตะวันตกเลยค่ะ)

No comments:

Post a Comment