Friday, October 14, 2022

The Ninth Grave

 


หนังสือชื่อ  :  The Ninth Grave

ผู้แต่ง  :  Stefan Arnhem

ผู้แปล  : Paul Norlen

สำนักพิมพ์  :  Head of Zeus Ltd


สนุกค่ะ  ผู้แต่งผูกปมเรื่องต่างๆ ได้ดี หลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในหนังสือ ในแต่ละฉาก เหมือนจะไม่เกี่ยวเนื่องอะไรกันเลย ทำให้คนอ่านอย่างเราสงสัยว่ามันจะมาเชื่อมโยงกันตอนไหน กว่าจะเฉลย ก็อ่านเรื่อยๆ จนจะจบเล่มแล้วค่ะ ...เดาคนร้ายผิดด้วยนะคะ คนร้ายเป็นคนที่คิดไม่ถึงว่าจะเป็นคนร้ายค่ะ ...

แต่ถึงหนังสือเล่มนี้จะสนุก แต่สนุกไม่สุดค่ะ ... มีหลายอย่างคาใจ คือในหน้าปกยกยอว่าดีกว่าหนังสือของ Jo Nesbo ... แต่ส่วนตัวคิดว่า Jo Nesbo สนุกกว่าค่ะ

เรื่องเร่ิมด้วยจดหมายในอดีตเมื่อสิบปีที่แล้วฉบับหนึ่ง จดหมายนี้เขียนโดยนักโทษคนหนึ่ง และแอบส่งโดยจ่าหน้าซองแค่ชื่อผู้รับแต่ไม่มีที่อยู่ หวังเพียงพระเจ้าจะช่วยบันดาลให้จดหมายนี้ถึงมือผู้รับ ...​แต่ปาฏิหาริย์ก็มีจริง หลายปีต่อมา มีคนมาพบ และส่งจดหมายนี้ต่อไปยังผู้รับที่จ่าหน้า โดยเป็นที่อยู่ที่ประเทศสวีเดน

...​แล้วในหนังสือ ก็ทิ้งเรื่องจดหมายนี้ไปเลยค่ะ หายไปเลยยยย จนเราคนอ่านงง ว่ามันจะมาเกี่ยวกับเรื่องที่เหลืออย่างไร แบบเกริ่นมา แล้วก็ทิ้ง ไม่เขียนถึงอีกเลย 

มาส่วน Part ที่สอง เป็นเรื่องในเดือนธันวาคมปี 2009 ตำรวจของสวีเดนกำลังปวดหัวกับคดีการหายตัวไปอย่างลึกลับ 2 คดี คดีหนึ่งเป็นการหายตัวไปของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม หายตัวไปจากอาคารรัฐสภาเลยค่ะ เข้าไปทำงาน แล้วไม่ออกมา ทั้งที่ภายในอาคารนั้นมีกล้องวงจรปิดแน่นหนา ...กับอีกคดีคือการหายตัวไปของหนุ่มเพลย์บอย ลูกชายของอดีตท่านทูตอิสราเอลประจำสวีเดน

คดีการหายตัวไปของรัฐมนตรียุติธรรมนั้น ยังไม่พบศพ ดังนั้นตำรวจจึงอยากให้สอบสวนในทางลับ ... ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจที่รับหน้าที่นี้คือ Fabian Risk ตัวเอกของเรื่องนี้นี่เอง ทำงานร่วมกับคู่หู Malin Rehnberg ซึ่ง Malin นั้นกำลังตั้งครรภ์เจ็ดเดือนอยู่ค่ะ (ในเล่ม นางจะขี้หงุดหงิดหน่อยๆ)

ในขณะเดียวกันนั้น ที่เดนมาร์ก ก็เกิดคดีฆาตกรรมสะเทือนขวัญขึ้นเช่นกัน ผู้ตายเป็นภรรยาของพิธีกรรายการทีวีชื่อดัง โดนสังหารโหดในบ้านพัก และสามีที่เป็นผู้ต้องสงสัยอันดับหนึ่งก็หายตัวไป ...เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้รับหน้าที่ทำการสืบสวนเรื่องนี้คือ Dunja Hougaard เป็นตำรวจหน้าใหม่ ประสบการณ์น้อย สวยด้วย เจ้านายหวังเคลม เลยมอบหมายงานใหญ่ให้ทำ ด้วยเสน่หาเป็นพิเศษ

คดีฆาตกรรมในสองประเทศนี้ ตำรวจแต่ละประเทศก็ต่างฝ่ายก็สืบสวนกันไป ไม่มีเกี่ยวข้องกันเลยค่ะ ตำรวจทั้งสองประเทศไม่ได้ประสานข้อมูลอะไรกัน คนอ่านเองก็มองไม่เห็นความเชื่อมโยงอะไรกันด้วย นอกจากเห็นความเหมือนกันที่ว่า อวัยวะบางอย่างหายไปจากร่างกายของเหยื่อ

...

คือมันสนุกตรงที่ ถ้าให้เล่าก็จะเป็นการสปอยด์เรื่อง เพราะเรื่องจะค่อยๆ เปิดเผยความจริงขึ้นมาทีละนิดๆ ... ตอนแรกที่อ่านลุ้นให้ตำรวจจับฆาตกรให้ได้ ... แต่พออ่านไปๆ กลับเห็นใจ และอยากให้ฆาตกรทำภารกิจสังหารให้ครบตามแผนก่อนที่จะโดนจับ  

.

นอกจากคดีฆาตกรรมที่ลุ้นว่าใครคือฆาตกรตัวจริงแล้ว หนังสือยังมีดราม่าชีวิตส่วนตัวของตำรวจที่เกี่ยวข้องกับคดีด้วยค่ะ ...​ อย่างชีวิตคู่ของ Fabian Risk ก็กำลังง่อนแง่น ใกล้จะเลิกกันเต็มที เหลือแค่ใครสักคนออกปากเลิกเท่านั้นเอง ... คืออ่านแล้วคนอ่านอย่างเรารู้สึกว่า จริงๆ เขาก็รักกันอยู่นะ คือถ้าเขาไม่มีลูก เขาคงยังอยู่ด้วยกันได้ แต่เพราะมีลูก และลูกกลายเป็นอุปสรรคในการทำงาน และพวกเขาเลือกงานมากกว่าลูก ดังนั้นลูกที่อยู่ตรงกลางของทั้งคู่ จึงกลายเป็นสิ่งกีดขวางความสัมพันธ์ไป 

ชีวิตของ Malin ก็เหมือนกัน คือนางกำลังตั้งครรภ์อยู่นะ แต่ทำอะไรไม่ระวังเลย และไม่ได้คิดถึงลูกในท้องด้วยซ้ำ

.

ในหนังสือมีบางตอนที่รู้สึกขัดใจ เพราะมันดูไม่สมจริงค่ะ เช่น

1. ตอนที่ Dunja ไปตามหาฆาตกร แล้วก็เจอฆาตการกำลังหั่นศพ Dunja เป็นลม แต่ฆาตกรไว้ชีวิต (ด้วยจุดหมายบางอย่าง) พร้อมปล่อยทิ้ง Dunja ไว้กับศพ ... แทนที่ Dunja ฟื้นขึ้นมา จะรีบหาคนมาช่วยโทรเรียกตำรวจ แจ้งความ ...​นางกลับเดินทางกลับบ้าน ทั้งๆ ที่ตัวเปื้อนเลือดของเหยื่อเต็มไปหมด แถมถึงบ้านก็อาบน้ำชำระร่างกาย??? ได้ด้วยเหรอ!!! คือเธอเป็นตำรวจนะ มันไม่ใช่กระบวนการปกติที่คนเป็นตำรวจ หรือคนปกติควรทำ 

2. ฆาตกรฉลาดมาก อันนั้นโอเค แต่เอาเวลาที่ไหนมาฆาตกรรมไล่ๆ กันสองประเทศ แถมตัวฆาตกรเองก็มีงานประจำทำ??? มันควรจะมีคนช่วยป่ะ??? -- เช่น ตอนพา Malin ไปทิ้งไว้ที่สถานทูต คือผู้หญิงท้องไม่ใช่ตัวเล็กๆ นะ 

.

นั่นแหละค่ะที่ขัดใจ ทำให้สะดุด และกลายเป็นหนังสืออ่านสนุก แต่สนุกไม่สุด ... ส่วนตอนที่ตัวเองของเรื่องทั้งหลายเป็นถึงตำรวจ แต่พอเจอสถานการณ์ฉุกเฉินจริงๆ กลับทำอะไรไม่ถูก ขาตาย ช็อค ... อันนี้ก็เข้าใจได้ค่ะ ชีวิตจริงเราก็อาจเกิดอย่างนี้ขึ้นได้ 



No comments:

Post a Comment