หนังสือชื่อ : The Ninth Grave
ผู้แต่ง : Stefan Arnhem
ผู้แปล : Paul Norlen
สำนักพิมพ์ : Head of Zeus Ltd
สนุกค่ะ ผู้แต่งผูกปมเรื่องต่างๆ ได้ดี หลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในหนังสือ ในแต่ละฉาก เหมือนจะไม่เกี่ยวเนื่องอะไรกันเลย ทำให้คนอ่านอย่างเราสงสัยว่ามันจะมาเชื่อมโยงกันตอนไหน กว่าจะเฉลย ก็อ่านเรื่อยๆ จนจะจบเล่มแล้วค่ะ ...เดาคนร้ายผิดด้วยนะคะ คนร้ายเป็นคนที่คิดไม่ถึงว่าจะเป็นคนร้ายค่ะ ...
แต่ถึงหนังสือเล่มนี้จะสนุก แต่สนุกไม่สุดค่ะ ... มีหลายอย่างคาใจ คือในหน้าปกยกยอว่าดีกว่าหนังสือของ Jo Nesbo ... แต่ส่วนตัวคิดว่า Jo Nesbo สนุกกว่าค่ะ
เรื่องเร่ิมด้วยจดหมายในอดีตเมื่อสิบปีที่แล้วฉบับหนึ่ง จดหมายนี้เขียนโดยนักโทษคนหนึ่ง และแอบส่งโดยจ่าหน้าซองแค่ชื่อผู้รับแต่ไม่มีที่อยู่ หวังเพียงพระเจ้าจะช่วยบันดาลให้จดหมายนี้ถึงมือผู้รับ ...แต่ปาฏิหาริย์ก็มีจริง หลายปีต่อมา มีคนมาพบ และส่งจดหมายนี้ต่อไปยังผู้รับที่จ่าหน้า โดยเป็นที่อยู่ที่ประเทศสวีเดน
...แล้วในหนังสือ ก็ทิ้งเรื่องจดหมายนี้ไปเลยค่ะ หายไปเลยยยย จนเราคนอ่านงง ว่ามันจะมาเกี่ยวกับเรื่องที่เหลืออย่างไร แบบเกริ่นมา แล้วก็ทิ้ง ไม่เขียนถึงอีกเลย
มาส่วน Part ที่สอง เป็นเรื่องในเดือนธันวาคมปี 2009 ตำรวจของสวีเดนกำลังปวดหัวกับคดีการหายตัวไปอย่างลึกลับ 2 คดี คดีหนึ่งเป็นการหายตัวไปของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม หายตัวไปจากอาคารรัฐสภาเลยค่ะ เข้าไปทำงาน แล้วไม่ออกมา ทั้งที่ภายในอาคารนั้นมีกล้องวงจรปิดแน่นหนา ...กับอีกคดีคือการหายตัวไปของหนุ่มเพลย์บอย ลูกชายของอดีตท่านทูตอิสราเอลประจำสวีเดน
คดีการหายตัวไปของรัฐมนตรียุติธรรมนั้น ยังไม่พบศพ ดังนั้นตำรวจจึงอยากให้สอบสวนในทางลับ ... ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจที่รับหน้าที่นี้คือ Fabian Risk ตัวเอกของเรื่องนี้นี่เอง ทำงานร่วมกับคู่หู Malin Rehnberg ซึ่ง Malin นั้นกำลังตั้งครรภ์เจ็ดเดือนอยู่ค่ะ (ในเล่ม นางจะขี้หงุดหงิดหน่อยๆ)
ในขณะเดียวกันนั้น ที่เดนมาร์ก ก็เกิดคดีฆาตกรรมสะเทือนขวัญขึ้นเช่นกัน ผู้ตายเป็นภรรยาของพิธีกรรายการทีวีชื่อดัง โดนสังหารโหดในบ้านพัก และสามีที่เป็นผู้ต้องสงสัยอันดับหนึ่งก็หายตัวไป ...เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้รับหน้าที่ทำการสืบสวนเรื่องนี้คือ Dunja Hougaard เป็นตำรวจหน้าใหม่ ประสบการณ์น้อย สวยด้วย เจ้านายหวังเคลม เลยมอบหมายงานใหญ่ให้ทำ ด้วยเสน่หาเป็นพิเศษ
คดีฆาตกรรมในสองประเทศนี้ ตำรวจแต่ละประเทศก็ต่างฝ่ายก็สืบสวนกันไป ไม่มีเกี่ยวข้องกันเลยค่ะ ตำรวจทั้งสองประเทศไม่ได้ประสานข้อมูลอะไรกัน คนอ่านเองก็มองไม่เห็นความเชื่อมโยงอะไรกันด้วย นอกจากเห็นความเหมือนกันที่ว่า อวัยวะบางอย่างหายไปจากร่างกายของเหยื่อ
...
คือมันสนุกตรงที่ ถ้าให้เล่าก็จะเป็นการสปอยด์เรื่อง เพราะเรื่องจะค่อยๆ เปิดเผยความจริงขึ้นมาทีละนิดๆ ... ตอนแรกที่อ่านลุ้นให้ตำรวจจับฆาตกรให้ได้ ... แต่พออ่านไปๆ กลับเห็นใจ และอยากให้ฆาตกรทำภารกิจสังหารให้ครบตามแผนก่อนที่จะโดนจับ
.
นอกจากคดีฆาตกรรมที่ลุ้นว่าใครคือฆาตกรตัวจริงแล้ว หนังสือยังมีดราม่าชีวิตส่วนตัวของตำรวจที่เกี่ยวข้องกับคดีด้วยค่ะ ... อย่างชีวิตคู่ของ Fabian Risk ก็กำลังง่อนแง่น ใกล้จะเลิกกันเต็มที เหลือแค่ใครสักคนออกปากเลิกเท่านั้นเอง ... คืออ่านแล้วคนอ่านอย่างเรารู้สึกว่า จริงๆ เขาก็รักกันอยู่นะ คือถ้าเขาไม่มีลูก เขาคงยังอยู่ด้วยกันได้ แต่เพราะมีลูก และลูกกลายเป็นอุปสรรคในการทำงาน และพวกเขาเลือกงานมากกว่าลูก ดังนั้นลูกที่อยู่ตรงกลางของทั้งคู่ จึงกลายเป็นสิ่งกีดขวางความสัมพันธ์ไป
ชีวิตของ Malin ก็เหมือนกัน คือนางกำลังตั้งครรภ์อยู่นะ แต่ทำอะไรไม่ระวังเลย และไม่ได้คิดถึงลูกในท้องด้วยซ้ำ
.
ในหนังสือมีบางตอนที่รู้สึกขัดใจ เพราะมันดูไม่สมจริงค่ะ เช่น
1. ตอนที่ Dunja ไปตามหาฆาตกร แล้วก็เจอฆาตการกำลังหั่นศพ Dunja เป็นลม แต่ฆาตกรไว้ชีวิต (ด้วยจุดหมายบางอย่าง) พร้อมปล่อยทิ้ง Dunja ไว้กับศพ ... แทนที่ Dunja ฟื้นขึ้นมา จะรีบหาคนมาช่วยโทรเรียกตำรวจ แจ้งความ ...นางกลับเดินทางกลับบ้าน ทั้งๆ ที่ตัวเปื้อนเลือดของเหยื่อเต็มไปหมด แถมถึงบ้านก็อาบน้ำชำระร่างกาย??? ได้ด้วยเหรอ!!! คือเธอเป็นตำรวจนะ มันไม่ใช่กระบวนการปกติที่คนเป็นตำรวจ หรือคนปกติควรทำ
2. ฆาตกรฉลาดมาก อันนั้นโอเค แต่เอาเวลาที่ไหนมาฆาตกรรมไล่ๆ กันสองประเทศ แถมตัวฆาตกรเองก็มีงานประจำทำ??? มันควรจะมีคนช่วยป่ะ??? -- เช่น ตอนพา Malin ไปทิ้งไว้ที่สถานทูต คือผู้หญิงท้องไม่ใช่ตัวเล็กๆ นะ
.
นั่นแหละค่ะที่ขัดใจ ทำให้สะดุด และกลายเป็นหนังสืออ่านสนุก แต่สนุกไม่สุด ... ส่วนตอนที่ตัวเองของเรื่องทั้งหลายเป็นถึงตำรวจ แต่พอเจอสถานการณ์ฉุกเฉินจริงๆ กลับทำอะไรไม่ถูก ขาตาย ช็อค ... อันนี้ก็เข้าใจได้ค่ะ ชีวิตจริงเราก็อาจเกิดอย่างนี้ขึ้นได้
No comments:
Post a Comment