หนังสือชื่อ : Last Tang Standing
ผู้เขียน : Lauren Ho
สำนักพิมพ์ : Harper Collins Publishers
ตลก สนุก โรแมนติก และได้แง่คิดค่ะ เหมือนดูรายการ Crazy Rich Asians ผสมกับอ่านหนังสือ Bridget Jones Diary รวมๆ กันยังไงยังงั้นเลยค่ะ
.
หนังสือเป็นไดอารี่ของ Andrea Tang ค่ะ อายุ 33 ปี ดูภายนอกเธอดูเป็นคนเก่ง พร้อมไปหมดทุกอย่าง เป็นทนายความที่กำลังรุ่งในหน้าที่การงาน ทำงานบริษัททนายความชั้นนำของสิงคโปร์ เรียนจบจากอังกฤษ พูดได้หลายภาษา บ้านก็รวย ... แต่คนรวยก็มีทุกข์ของคนรวยเนอะ
ทุกข์ของ Andrea คือเป็นสาวคนสุดท้ายในตระกูล Tang ที่ยังไม่ได้แต่งงาน ... คือต้องนึกภาพครอบครัวคนจีนนะคะ Andrea เป็นคนจีน-มาเลเซีย แต่มาทำงานที่สิงคโปร์ คนจีนจะมีค่านิยมว่าพออายุถึงวัยแล้ว ผู้หญิงต่อให้เก่งแค่ไหน ก็ควรแต่งงานกับคนที่เหมาะสม และมีลูกสืบวงศ์ตระกูลค่ะ ดังนั้น Andrea เนี่ยถือว่าช้ามากแล้วค่ะ แถมล่าสุด ลูกพี่ลูกน้องของ Andrea ที่รู้ๆ กันว่าเป็นเลสเบี้ยน จู่ๆ ก็ประกาศแต่งงานค่ะ
ในหนังสืออธิบายให้คนอ่านเข้าใจวัฒนธรรมคนเอเชีย เรื่องความกตัญญูที่มีต่อพ่อแม่ หรือผู้มีพระคุณของเอเชีย คือฝรั่งคงงงว่าทำไมต้องยอมให้คนอื่นมาก้าวก่ายเรื่องส่วนตัว แต่ค่านิยมของคนเอเชียมันสลัดยากจริงๆ ค่ะ ค่านิยม "อวด" ชีวิตดี๊ดี ลูกหลานฉันดีอย่างนั้นอย่างนี้ อวดกันเนี่ย ดูเหมือนฝั่งคนจีนเขาจะแรงกว่าญาติพี่น้องคนไทยเยอะเลยค่ะ
หลังชนฝาแล้ว Andrea ต้องหาผัวให้ได้ค่ะ ไม่งั้นป้า wei wei จะตัดออกจากกองมรดก Andrea ต้องขอความช่วยเหลือจากเพื่อนๆ และตัวเธอเองก็โหลดแอปหาคู่มาลองเล่นดูค่ะ
ไปๆ มาๆ คนไม่มีแฟนเลย (เคยมีแต่เลิกไปแล้ว) พอดวงจะมี ก็มีผู้ชายมาให้เลือกถึง 3 คนค่ะ
คนแรกคือ Orson อายุ 23 ปี คนนี้ไม่ได้เรื่องค่ะ (คนอ่านตัดสิน) ถ้าเราอ่าน เราจะรู้สึกว่า ถึงแม้ Andrea จะอายุไม่น้อยแล้ว แต่เธอค่อนข้างไร้เดียงสา คือไว้ใจคนง่าย มองคนไม่ออก หรือไม่ก็คงเพราะความรักความหลงบังตา
ลืมบอกไป ถ้าเชื่อเรื่องพรหมจรรย์อะไรพวกนี้ ไม่ต้องหยิบเรื่องนี้มาอ่านเลยนะคะ นางเอกของเรามีเซ็กส์เมื่อรู้สึกดีกับคนๆ นั้นค่ะ คือไม่ได้ซีเรียสว่าต้องคบหาดูใจกันสักระยะก่อนอะไรเทือกนั้น
คนที่สองคือ Eric คนนี้ โครตรวยค่ะ รวยมากๆ เป็นคนอินโดนีเซีย เชื้อสายจีน เจอกันที่งานบุ๊กคลับ Eric ประทับใจนางเอก เพราะความสวย ฉลาดของเธอ ... พอเราอ่านไปสักพัก เราจะเห็นความเหมาะสมในภายนอกของทั้งคู่ แต่ขณะเดียวกันก็เห็นความดูเหมือนเคมีจะเข้ากัน ..แต่จริงๆ แล้วไม่เข้ากัน คือ Eric เหมาะกับผู้หญิงหัวอ่อนหน่อยนะคะ แต่ Andrea ไม่ใช่ นางเป็นเวิร์กกิ้งวูแมน เป็นผู้หญิงทำงาน และมีปมเรื่องการรับความช่วยเหลือโดยเฉพาะทางการเงินจากคนอื่น เพราะชีวิตที่ผ่านมา ป้า Wei Wei ออกเงินค่าโรงพยาบาลให้พ่อ หรือพ่อแม่ที่ทำงานหนักส่งเสียเธอเรียน จนเธอรู้สึกเป็นหนี้บุญคุณ และรู้สึกเหมือนติดกับ ไม่มีอิสระในชีวิต เพราะคนเหล่านี้เข้ามาก้าวก่ายชีวิตเธอในขณะที่ Eric ติดนิสัยคนรวย เผด็จการหน่อยๆ อะไรใช้เงินซื้อได้ก็ซื้อเลย ไม่ปรึกษานางเอกก่อน ...สรุป Eric คือบุคลิกเป็นพระเอกในนิยายไทยหลายๆ เรื่องที่เคยอ่านมาเลยล่ะค่ะ
คนที่สามเป็นเพื่อนร่วมงานค่ะ ชื่อ Suresh เป็นคนสิงคโปร์ เชื้อสายอินเดีย นางเอกมองว่า Suresh เป็นคู่แข่งชิงเลื่อนตำแหน่งเป็นพาร์ทเนอร์ค่ะ แต่เนื่องด้วยสำนักงานกำลังปรับปรุง ดังนั้น Suresh และนางเอกจึงต้องมาใช้ห้องทำงานร่วมกันชั่วคราว ... คนอ่านจะเห็นความเคมีเข้ากันของคู่นี้ค่ะ คือมันเริ่มจากนางเอกเห็น Suresh เป็นศัตรู เลยทำตัวร้ายๆ แต่ร้ายของเธอมันไร้เดียงสาไงคะ ดูตลกๆ มากกว่า ดูไม่มีชั้นเชิง ... จากนั้นทั้งคู่เริ่มพูดคุยกันมากขึ้น มีงานที่ต้องทำร่วมกัน Suresh เริ่มเล่าความฝันลึกๆ ในชีวิตของเขาให้เธอฟัง ส่วนเธอก็สนับสนุนให้เขาทำตามฝัน คือไม่ได้หัวเราะเยาะ หรือมองว่าไร้สาระเหมือนที่คนอื่นๆ คิด
ถึงเราจะเห็นเคมีที่เข้ากันของ Andrea และ Suresh แต่ภายนอกนั้นทั้งคู่ไม่เหมาะสมกันหรอกค่ะ คือความรักมันอาจจะเร่ิมต้นด้วยคนสองคน แต่สุดท้ายมันก็มีญาติพี่น้องสังคม ... Suresh เป็นคนอินเดีย ที่พ่อแม่ก็อยากให้แต่งงานกับคนเชื้อสายอินเดียด้วยกัน วรรณะเดียวกันยิ่งดี ส่วน Andrea เป็นคนเชื้อสายจีน ที่ "ควร" หาคู่ครองที่เป็นคนจีนด้วยกัน และอีกประเด็นสำคัญ Suresh มีคู่หมั้นแล้วค่ะ กำลังจะแต่งงานด้วย (แต่คู่หมั้นยังอยู่อังกฤษ) ดังนั้น ความสัมพันธ์ระหว่าง Andrea กับ Suresh ก็เลยออกจะคลุมเครือๆ อย่างนี้ไปเกือบตลอดเรื่องค่ะ
ในหนังสือ ชอบตอนที่นางเอกไปบังเอิญเจอแฟนเก่าเดินควงมากับแฟนใหม่ และเลี่ยงไม่ได้ เลยจำเป็นต้องทักทายกัน นางเอกพยายามกดให้แฟนใหม่ของแฟนเก่าดูต่ำกว่าเธอ (เช่น ถามว่าทำงานอะไร ฯลฯ) จนแฟนเก่าต้องด่านางเอกใส่หน้า ประมาณว่า "คุณเกลียดผม เพราะผมอยู่ในระบบและชอบมัน ในขณะที่คุณมักทำตัวเหนือกว่า เหมือนกับว่าคุณมีที่ที่ดีกว่าให้ไป แต่รู้อะไรไหม คุณก็ยังคงอยู่ในระบบ"
เพราะ Andrea มีความฝันอยากทำงานเป็นทนายเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนค่ะ แต่ทนายแบบนั้นรายได้ไม่ดี ตัวเธอเองมีค่าโน่นค่านี่ต้องจ่าย มีสังคม มีแฟชั่นที่ต้องตาม ฯลฯ ทั้งหมดนี้ใช้เงิน ดังนั้นเธอจึงยังคงต้องติดอยู่ในวังวนของการทำงานหนัก
จริงนะ บางครั้งเราอยู่ในระบบ ในสังคมที่เราไม่ชอบ ไม่มีความสุข แต่เราไม่เคยเลยที่จะดิ้นรนที่จะออกไป ยังคงติดอยู่กับการไม่มีความสุขกับงานที่ทำ ชีวิตคู่ครอง หรือสังคมที่มีอยู่ ... จริงๆ ทางออกมันมีแหละ แต่เราไม่มีความกล้าที่จะเลือกมันต่างหาก
สรุปคือ ค่านิยมแบบเอเชียที่ชอบเปรียบเทียบความสำเร็จของแต่ละคนด้วยสิ่งของ วัตถุเนี่ย เป็นค่านิยมที่น่ากลัวมาก แต่ในอีกด้าน มันคือความกดดันที่ทำให้ลูกหลานเอเชียประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานนะคะ
.
อยากเห็นหนังสือเล่มนี้แปลเป็นภาษาไทย น่าจะอ่านเข้าใจกว่านี้ เพราะในเล่มมีศัพท์บางคำที่ดูเหมือนเป็นทับศัพท์ หรือเป็นแสลงของสิงคโปร์ อ่านไม่เข้าใจบางคำค่ะ แต่โดยรวมแล้วไม่มีปัญหา มีศัพท์ทางกฎหมาย มีเรื่องทางกฎหมายที่นางเอกทำงาน อันนี้ก็อ่านไม่เข้าใจเพราะไม่ได้มีพื้นอยู่ในวงการนี้ ...แต่โดยรวมแล้วหนังสือสนุก ขำ คลายเครียดและให้แง่คิดค่ะ แนะนำค่ะ